4. Nike Air Zoom Pegasus 38 – หนึ่งในรองเท้าวิ่งรุ่นดังจาก NIKE จุดเด่นคือ All-round ครบเครื่อง รอบด้าน ราคาเป็นมิตร วิ่งออกกำลังกายก็ได้ ใส่วิ่งแข่งขันก็ดี Nike Air Zoom Pegasus 38 มาพร้อมอัปเปอร์ผ้าตาข่ายน้ำหนักเบาระบายอากาศได้ดี และพื้นรองเท้าส่วนกลางและด้านในทำจากโฟมผสานเทคโนโลยี Zoom Air ช่วยลดแรงกระแทก มอบการซัพพอร์ตอย่างยืดหยุ่นและให้การสปริงตัวได้ดีเป็นพิเศษ ผสานเทคโนโลยี NIKE React ช่วยดูดซับแรงกระแทกและส่งคืนพลังงานอย่างเต็มเปี่ยมในทุกย่างก้าวในขณะวิ่ง
Contents
รองเท้าเทรนนิ่งเป็นแบบไหน
รองเท้าเทรนนิ่ง – รองเท้าเทรนนิ่ง สามารถรองรับการเคลื่อนไหวได้หลายรูปแบบ โดยส่วนใหญ่รองเท้าครอสเทรนนิ่งจะให้การซัพพอร์ตและมีคุชชั่นบริเวณส้นเท้าและกลางเท้าได้ดี และควรเลือกดูที่พื้นรองเท้าด้วยว่าเป็นแบบแบนเรียบหรือไม่ เพื่อช่วยในการเบรกการเคลื่อนไหวกระทันหัน และควรต้องยึดเกาะได้ดีทุกพื้นผิว เหมาะกับการออกกำลังกายที่มีการผสมผสานการวิ่ง เช่น HIIT ซึ่งการฝึกเเบบ HIIT ที่จะมีการเคลื่อนไหวแบบ Plyomaetric คือการเปลี่ยนท่าอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น การฝึกความคล่องตัว การฝึกแบบ HIIT เล่นเวท บาสเก็ตบอล เทนนิส แอโรบิค ครอสฟิต โยคะ ซุมบ้าและคลาสแดนซ์ต่างๆ อย่างเช่น HOKA Solimar
- ต้องสวมใส่สบาย พอดีเท้า ข้อนี้เป็นสิ่งแรกของการเลือกซื้อรองเท้าทุกประเภท
- ต้องสามารถรองรับแรงกระเเทกบริเวณอุ้งเท้า เพื่อลดโอกาสการบาดเจ็บที่ข้อเท้า
- ความหนาของพื้นรองเท้าชั้นนอก ต้องหนาและกว้างพอให้เท้าของเราทรงตัวอยู่กับที่ในขณะที่เราเคลื่อนที่ไปด้านข้าง
- สำหรับการใส่เพื่อเล่นเวท ส่วนส้นเท้าต้องมีซัพพอร์ตที่ดีเพื่อรองรับน้ำหนักจากเวทและช่วยซัพพอร์ตข้อเท้าของเรา
หากนำมาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ เพื่อให้ผู้ที่กำลังจะซื้อรองเท้าสำหรับออกกำลังกาย สามารถเปรียบเทียบได้ดังตารางนี้
รองเท้าวิ่ง | รองเท้าเทรนนิ่ง |
รองรับการเคลื่อนที่ไปด้านหน้า | รองรับการเคลื่อนที่ได้หลายทิศทาง |
พื้นรองเท้าชั้นกลางรองรับแรงกระแทกได้ดี | รองรับแรงกระแทกที่ส้นเท้า |
ส่วนส้นเท้าสูง | ส่วนส้นเท้าจะไม่สูงเท่ารองเท้าวิ่ง |
น้ำหนักเบา และระบายอากาศได้ดี | เน้นความทนทาน |
หรือจะนำวิธีสังเกตรองเท้าวิ่งกับ รองเท้าเทรนนิ่ง แบบง่ายๆ มาฝากกันอีก 3 วิธีนี้ไปประกอบการตัด สินใจซิ้อก็ได้
- สังเกตดูที่ส้นของรองเท้า รองเท้าวิ่งออกแบบมาเพื่อให้วิ่งในทางตรง ส่วนส้นเท้าจะสูงกว่าปลายเท้า เพื่อซัพพอร์ตการวิ่งและป้องกันแรงกระแทกที่จะเกิดขึ้นที่หัวเข่า ต่างกับรองเท้าเทรนนิ่งที่ออกแบบมาให้ส่วนของส้นเท้าและปลายเท้าเท่ากันตลอด
- สังเกตที่ฝ่าเท้า รองเท้าวิ่งส่วนของพื้นรองเท้าออกแบบมาให้มีส่วนเว้าที่กลางฝ่าเท้า รองรับแรงกระแทก ส่วน รองเท้าเทรนนิ่ง พื้นรองเท้าด้านในจะเรียบเพื่อการเคลื่อนไหวในทิศทางต่างๆ ได้สะดวกขึ้น
- สังเกตที่รูปทรง จุดเด่นของ รองเท้าเทรนนิ่ง คือ ผิวด้านข้างจะมน ปลายมน รวมไปถึงส้นมน ส้นไม่ยกสูง ดีไซน์ไม่ได้โฉบเฉี่ยวมาก เพราะออกแบบมาให้ออกกำลังกายในยิม ส่วนรองเท้าวิ่ง ออกแบบมาให้สะดุดตา มีสีสัน สีสะท้อนแสง เพื่อป้องกันเวลาวิ่งตอนช่วงเช้าหรือหัวค่ำ คนอื่นๆ จะได้สังเกตเห็นได้
ข้อมูลแน่นขนาดนี้พอจะทำให้ผู้อ่านตัดสินใจเลือกซื้อรองเท้าออกกำลังกายได้หรือยัง หากยังไม่รู้จะเลือกแบบไหน สไตล์ไหน ลองคลิกที่ www.rev.co.th ที่ REV เราแยก category รองเท้าให้ได้เลือกใช้งานอย่างถูกประเภท ทั้งรองเท้าวิ่ง รองเท้าเทรนนิ่ง รองเท้าวิ่งเทรล รองเท้าไลฟ์สไตล์ รองเท้าผู้หญิง รองเท้าผู้ชาย อุปกรณ์วิ่ง ฯลฯ เราแยกมาให้อย่างชัดเจน เพื่อช่วยให้ลูกค้าทุกท่านเลือกซื้อรองเท้าได้ตามความต้องการ นอกจากนี้เรายังมีโปรโมชั่นประจำเดือน และโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าใหม่ รับส่วนลดไปเลย 150 บาท สามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดในการเลือกซื้ออุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าที่ไม่มีเวลาเดินทาง สามารถช้อปผ่านช่องทางออนไลน์ เราจัดส่งทั่วประเทศและมั่นใจได้ว่าสินค้าทุกชิ้นจาก REV เป็นของเเท้ 100% สำหรับใครที่มีแต่รองเท้าวิ่ง อยากจะใส่เทรนนิ่งในยิมหรือฟิตเนสก็ได้ แต่สำหรับใครที่มีแต่ รองเท้าเทรนนิ่ง เราไม่แนะนำให้นำมาใส่วิ่งเอาท์ดอร์ เพราะรองเท้าเทรนนิ่งไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รองรับแรงกระแทกที่หัวเข่า อาจทำให้ผู้สวมใส่เกิดการบาดเจ็บขึ้นได้ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rev.co.th ติดต่อ : https://www.rev.co.th/contact-us Line: https://lin.ee/PCz490D Facebook : https://www.facebook.com/sportsrev.th Instagram : https://www.instagram.com/rev.runnr
รองเท้า กระโดด เชือก ยี่ห้อไหนดี
10 อันดับ รองเท้ากระโดดเชือก ยี่ห้อไหนดี รับแรงกระแทก ยึดเกาะดี – สำหรับสายออกกำลังกาย วันนี้เราได้นำรองเท้ากระโดดเชือกมาแนะนำกันถึง 10 รุ่น โดยแต่ละรุ่นจะมาพร้อมกับคุณสมบัติเด่นในด้านใดบ้าง ลองมาพิจารณาและเลือกไปใช้งานกันดูนะครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Adidas รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น GZ9258 / GZ9257 | LAZADA SHOPEE | ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลที่มีคุณภาพ ทั้งรักษ์โลกและรักสุขภาพของคุณ | |
2 | REEBOK รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น Flexagon Energy TR 3 | LAZADA SHOPEE | นุ่มสบาย ใส่กระชับเท้า สามารถช่วยลดแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี | |
3 | Nike รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น Revolution 6 | LAZADA | เพิ่มความทนทาน เบาสบาย เหมาะกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ดี | |
4 | PUMA รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น Velocity Nitro 2 Women’s Running Shoes | LAZADA SHOPEE | มีฟังก์ชัน PUMAGRIP ที่พิเศษเฉพาะตัว ช่วยยึดเกาะได้ทุกพื้นผิว | |
5 | Camel รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น A133046140 | LAZADA SHOPEE | สัมผัสถึงความนุ่ม สบาย ช่วยให้เพลิดเพลินกับการออกกำลังกาย | |
6 | Kawasaki รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น K-098 | SHOPEE | รองเท้าที่ใส่ได้ทั้งผู้ชายและหญิง เหมาะกับกีฬาที่ใช้แรงกระโดด | |
7 | Baoji รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น W Let s Go Balen Storm II BJW619 | LAZADA SHOPEE | รองเท้าคุณภาพดี มีความโปร่งสบาย มาพร้อมวัสดุระบายอากาศ | |
8 | Bata รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น XoRise+ 500 GT | LAZADA SHOPEE | มีฟังก์ชัน Orthoite ลดกลิ่นเหม็นอับ รองรับการใช้ในทุกกิจกรรม | |
9 | ASICS รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น GEL-KAYANO 28 MEN | LAZADA SHOPEE | โดดเด่นในการรองรับเท้า ช่วยให้เคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ | |
10 | Xtep รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น Professional Sports Fashion | LAZADA SHOPEE | ดีไซน์แบบแฟชั่น สามารถระบายอากาศได้ดี มีแผ่นรองรับการกดทับ |
รองเท้า ออก กํา ลังกา ย ควร ใส่ แบบไหน
รองเท้ากีฬาเลือกแบบไหนดี –
- รองเท้ากีฬาสำหรับออกกำลังกาย
- 1.เลือกรองเท้าให้เหมาะกับรูปแบบการออกกำลังกาย
- ควรเลือกรองเท้าให้เหมาะกับรูปแบบการออกกำลังกาย เช่น การออกกำลังกายในร่มหรือฟิตเนสทั่วไป ควรเลือกรองเท้ากีฬาที่มีความสบาย มีน้ำหนักเบาและสามารถยึดเกาะได้ดีกับทุกสภาพพื้นผิว หากเป็นการออกกำลังกายนอกสถานที่หรือการออกกำลังกายกลางแจ้ง ควรเลือกเป็นรองเท้ากีฬาหรือรองเท้าวิ่งสำหรับกลางแจ้ง ที่นอกจากนุ่มสบายแล้ว ควรรองรับแรงกระแทกในระหว่างวิ่ง หรือเล่นกีฬาได้เป็นอย่างดีด้วย
- 2.เลือกรองเท้าแบบเฉพาะเจาะจงของประเภทกีฬา
- ปัจจุบันมีรองเท้ากีฬาให้เลือกซื้อหลากหลายรุ่น หลากหลายแบรนด์ เพื่อตอบโจทย์ทุกประเภทกีฬา ฉะนั้นถ้าออกกำลังกายด้วยการเล่นบาสเกตบอล ควรเลือกซื้อรองเท้าสำหรับเล่นบาสเกตบอล หรืออธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ เล่นกีฬาประเภทไหน ก็ซื้อรองเท้าตามประเภทนั้น อาทิ รองเท้ากีฬาสำหรับเล่นฟุตบอล รองเท้าเล่นเทนนิส รองเท้าเล่นกอล์ฟ รองเท้าเล่น หรือ เพื่อให้ได้รองเท้ากีฬาที่ช่วยซัพพอร์ตเท้าของเราขณะออกกำลังกาย
- เป็นเจ้าของรองเท้ากีฬาคู่สวย ด้วยบัตรเครดิตกรอกข้อมูลที่นี่
- 3.เลือกรองเท้าให้เหมาะกับทรงเท้าของเรา
- ลักษณะกายภาพเท้าของแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกัน บางคนรูปเท้าอาจมีลักษณะเรียว เท้าแบน หรือเท้ามีลักษณะโค้ง ซึ่งการเลือกซื้อรองเท้าให้เหมาะสมกับทรงเท้างผู้สวมใส่ นอกจากช่วยให้สวมใส่สบายแล้ว ยังช่วยไม่ให้เราได้รับบาดเจ็บจากการใส่รองเท้าอีกด้วย ทำให้สามารถออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ไม่รู้สึกปวดเมื่อยในขณะสวมใส่รองเท้าคู่นั้น ๆ
- 4.ทดสอบรองเท้าทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ
- รองเท้าออกกำลังกาย รองเท้ากีฬา หรือ ในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ แน่นอนว่าการเลือกให้เหมาะสมกับตัวเราเองนั้นคือ ทดลองสวมใส่และลองเคลื่อนไหว เพื่อดูว่ารองเท้ากีฬาที่สนใจมีขนาดที่พอเหมาะ ไม่คับแล้วไม่หลวมจนเกินไป ใส่แล้วลองเคลื่อนไหวด้วยการเดิน วิ่ง หรือกระโดด ว่ารองเท้ามีการหลุดหรือไม่ ที่สำคัญเวลาทดลองสวมอย่าลืมสวมถุงเท้าด้วย จะได้รู้ว่ามีบางส่วนของเท้าโดนบีบ หรือโดนเสียดสีมากเกินไปหรือไม่
- การวิ่งออกกำลังกาย พร้อมรองเท้าที่ดี
- การเลือกรองเท้ากีฬาในปัจจุบันมีตัวเลือกให้เราสามารถเลือกซื้อได้อย่างหลากหหลาย ไม่ว่าจะเป็นตัวเลือกจากแบรนด์ดังต่างๆ ไปจนถึงรุ่นยอดนิยมที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้ ที่เหมาะสำหรับการออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬา นอกจากนี้แล้วคุณยังสามารถเลือกซื้อรองเท้ากีฬาลดราคา พร้อมโปรโมชั่นพิเศษอื่นๆผ่านการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต ไม่ว่าเป็นการเลือก หรือการเลือกชำระผ่านบัตรเครดิตพร้อมรับ ที่ช่วยให้คุณเป็นเจ้าของรองเท้ากีฬาได้ในราคาถูกประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย
- ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี
: มาดู 4 เทคนิคเลือกรองเท้ากีฬา ให้เหมาะกับแต่ละคน
ใส่รองเท้าอะไร เล่นเวท
กีฬายกน้ำหนักทั้งหลาย จึงมี รองเท้าที่มีส้นหนา พื้นแข็ง ใช้ในการแข่งขันเพื่อให้ได้สถิติที่ดีที่สุด แต่เวลาฝึกซ้อมทั้งโค้ชและนักกีฬาหลายๆคนกลับชอบจะฝึกด้วยเท้าเปล่า หรือรองเท้าพื้นแบนเพราะเนื่องจากที่ต้องการที่จะตัดตัวช่วยที่ทำให้ได้เปรียบอย่างการรองส้นเท้าหรือใส่รองเท้ามีส้นออกไป โดยการฝึกด้วยเท้าเปล่าหรือรองเท้าพื้นแบน
Cross Training มีอะไรบ้าง
การฝึก Cross training คืออะไร –
- การฝึก Cross training มันคือการผสมผสานการออกกำลังกายรูปแบบอื่นๆ เข้ามาในตารางการฝึก เช่น ปั่นจักรยาน, เล่นโยคะ, strength training, ปีนหน้าผา หรือแม้แค่การไปเตะบอล ก็คือว่าเป็น Cross Training ด้วยเหมือนกัน
- มันจะช่วยให้เราได้ใช้ร่างกายและกล้ามเนื้อในรูปแบบที่ต่างกันไป ดีกว่าการที่เราฝึกอะไรแบบเดิมๆ ทุกวัน โดยที่ใช้กล้ามเนื้อขา กล้ามเนื้อแกนกลาง และแขนในรูปแบบเดิมไปตลอด
ยกตัวอย่างเช่น การปั่นจักรยานจะช่วยให้เราได้บริหารกล้ามเนื้อสะโพก น่อง กล้ามเนื้อควอท และก้น ต่างกับตอนวิ่งที่เราต้องใช้กล้ามเนื้อส่วนเดิมไปตลอด ซึ่งมันเป็นการช่วยให้เราได้ฝึกกล้ามเนื้อส่วนสำคัญในรูปแบบใหม่ที่มีความท้าทายแตกต่างจากเดิม
เชือกกระโดดแบบไหนดี มือใหม่
เชือกกระโดด pvc – เชือกกระโดด PVC หรือเชือกพลาสติก สายเชือกมีขนาดปานกลาง มักทำเป็นเชือกตันตลอดเส้น ทำให้เชือกมีน้ำหนักที่พอเหมาะ ช่วยให้ฝึกกระโดดได้ง่าย แถมมีสีสันให้เลือกมากมาย น่าจะช่วยจูงใจให้เริ่มต้นกระโดดเชือกได้ง่าย
ข้อดี: สายเชือกมีความอ่อนตัวและโค้งงอได้ดี ลดโอกาสเชือกพันกัน ทำให้ฝึกกระโดดง่าย ไม่สะดุด สามารถเพิ่มความเร็วของการควงเชือกได้ง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ที่กำลังจะเริ่มฝึกกระโดดเชือกทั้งเรื่องการกระโดดและการเหวี่ยงเชือก ข้อเสีย: สายเชือกทำจากพลาสติก มีความอ่อนตัว จึงเหมาะสำหรับกระโดดบนพื้นเรียบ ๆ เท่านั้น หากกระโดดบนพื้นปูนหยาบหรือพื้นผิวขรุขระ จะทำให้เชือกสึกหรอและขาดเร็ว
รูปเชือกกระโดด PVC
กระโดดเชือก ออกกําลังกายแบบไหน
การกระโดดเชือก (Rope Jumping) เป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ้ อย่างหนึ่งที่ทำให้ปอดและหัวใจแข็งแรง ทั้งช่วยสลายไขมันและบริหารกล้ามเนื้อหลายส่วนทั่วร่างกายไปพร้อมๆกัน โดยใช้อุปกรณ์เพียงเชือกกระโดดคุณภาพดี และความพร้อมของร่างกายก็สามารถกระโดดเชือกได้ทุกวัน เป็นวิธีออกกำลังกายที่ประหยัดทั้งเงินและเวลา
Cross Training มีอะไรบ้าง
การฝึก Cross training คืออะไร –
- การฝึก Cross training มันคือการผสมผสานการออกกำลังกายรูปแบบอื่นๆ เข้ามาในตารางการฝึก เช่น ปั่นจักรยาน, เล่นโยคะ, strength training, ปีนหน้าผา หรือแม้แค่การไปเตะบอล ก็คือว่าเป็น Cross Training ด้วยเหมือนกัน
- มันจะช่วยให้เราได้ใช้ร่างกายและกล้ามเนื้อในรูปแบบที่ต่างกันไป ดีกว่าการที่เราฝึกอะไรแบบเดิมๆ ทุกวัน โดยที่ใช้กล้ามเนื้อขา กล้ามเนื้อแกนกลาง และแขนในรูปแบบเดิมไปตลอด
ยกตัวอย่างเช่น การปั่นจักรยานจะช่วยให้เราได้บริหารกล้ามเนื้อสะโพก น่อง กล้ามเนื้อควอท และก้น ต่างกับตอนวิ่งที่เราต้องใช้กล้ามเนื้อส่วนเดิมไปตลอด ซึ่งมันเป็นการช่วยให้เราได้ฝึกกล้ามเนื้อส่วนสำคัญในรูปแบบใหม่ที่มีความท้าทายแตกต่างจากเดิม