4. Nike Air Zoom Pegasus 38 – หนึ่งในรองเท้าวิ่งรุ่นดังจาก NIKE จุดเด่นคือ All-round ครบเครื่อง รอบด้าน ราคาเป็นมิตร วิ่งออกกำลังกายก็ได้ ใส่วิ่งแข่งขันก็ดี Nike Air Zoom Pegasus 38 มาพร้อมอัปเปอร์ผ้าตาข่ายน้ำหนักเบาระบายอากาศได้ดี และพื้นรองเท้าส่วนกลางและด้านในทำจากโฟมผสานเทคโนโลยี Zoom Air ช่วยลดแรงกระแทก มอบการซัพพอร์ตอย่างยืดหยุ่นและให้การสปริงตัวได้ดีเป็นพิเศษ ผสานเทคโนโลยี NIKE React ช่วยดูดซับแรงกระแทกและส่งคืนพลังงานอย่างเต็มเปี่ยมในทุกย่างก้าวในขณะวิ่ง
รองเท้าเทรนนิ่งเป็นแบบไหน
รองเท้าเทรนนิ่ง – รองเท้าเทรนนิ่ง สามารถรองรับการเคลื่อนไหวได้หลายรูปแบบ โดยส่วนใหญ่รองเท้าครอสเทรนนิ่งจะให้การซัพพอร์ตและมีคุชชั่นบริเวณส้นเท้าและกลางเท้าได้ดี และควรเลือกดูที่พื้นรองเท้าด้วยว่าเป็นแบบแบนเรียบหรือไม่ เพื่อช่วยในการเบรกการเคลื่อนไหวกระทันหัน และควรต้องยึดเกาะได้ดีทุกพื้นผิว เหมาะกับการออกกำลังกายที่มีการผสมผสานการวิ่ง เช่น HIIT ซึ่งการฝึกเเบบ HIIT ที่จะมีการเคลื่อนไหวแบบ Plyomaetric คือการเปลี่ยนท่าอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น การฝึกความคล่องตัว การฝึกแบบ HIIT เล่นเวท บาสเก็ตบอล เทนนิส แอโรบิค ครอสฟิต โยคะ ซุมบ้าและคลาสแดนซ์ต่างๆ อย่างเช่น HOKA Solimar
- ต้องสวมใส่สบาย พอดีเท้า ข้อนี้เป็นสิ่งแรกของการเลือกซื้อรองเท้าทุกประเภท
- ต้องสามารถรองรับแรงกระเเทกบริเวณอุ้งเท้า เพื่อลดโอกาสการบาดเจ็บที่ข้อเท้า
- ความหนาของพื้นรองเท้าชั้นนอก ต้องหนาและกว้างพอให้เท้าของเราทรงตัวอยู่กับที่ในขณะที่เราเคลื่อนที่ไปด้านข้าง
- สำหรับการใส่เพื่อเล่นเวท ส่วนส้นเท้าต้องมีซัพพอร์ตที่ดีเพื่อรองรับน้ำหนักจากเวทและช่วยซัพพอร์ตข้อเท้าของเรา
หากนำมาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ เพื่อให้ผู้ที่กำลังจะซื้อรองเท้าสำหรับออกกำลังกาย สามารถเปรียบเทียบได้ดังตารางนี้
รองเท้าวิ่ง | รองเท้าเทรนนิ่ง |
รองรับการเคลื่อนที่ไปด้านหน้า | รองรับการเคลื่อนที่ได้หลายทิศทาง |
พื้นรองเท้าชั้นกลางรองรับแรงกระแทกได้ดี | รองรับแรงกระแทกที่ส้นเท้า |
ส่วนส้นเท้าสูง | ส่วนส้นเท้าจะไม่สูงเท่ารองเท้าวิ่ง |
น้ำหนักเบา และระบายอากาศได้ดี | เน้นความทนทาน |
หรือจะนำวิธีสังเกตรองเท้าวิ่งกับ รองเท้าเทรนนิ่ง แบบง่ายๆ มาฝากกันอีก 3 วิธีนี้ไปประกอบการตัด สินใจซิ้อก็ได้
- สังเกตดูที่ส้นของรองเท้า รองเท้าวิ่งออกแบบมาเพื่อให้วิ่งในทางตรง ส่วนส้นเท้าจะสูงกว่าปลายเท้า เพื่อซัพพอร์ตการวิ่งและป้องกันแรงกระแทกที่จะเกิดขึ้นที่หัวเข่า ต่างกับรองเท้าเทรนนิ่งที่ออกแบบมาให้ส่วนของส้นเท้าและปลายเท้าเท่ากันตลอด
- สังเกตที่ฝ่าเท้า รองเท้าวิ่งส่วนของพื้นรองเท้าออกแบบมาให้มีส่วนเว้าที่กลางฝ่าเท้า รองรับแรงกระแทก ส่วน รองเท้าเทรนนิ่ง พื้นรองเท้าด้านในจะเรียบเพื่อการเคลื่อนไหวในทิศทางต่างๆ ได้สะดวกขึ้น
- สังเกตที่รูปทรง จุดเด่นของ รองเท้าเทรนนิ่ง คือ ผิวด้านข้างจะมน ปลายมน รวมไปถึงส้นมน ส้นไม่ยกสูง ดีไซน์ไม่ได้โฉบเฉี่ยวมาก เพราะออกแบบมาให้ออกกำลังกายในยิม ส่วนรองเท้าวิ่ง ออกแบบมาให้สะดุดตา มีสีสัน สีสะท้อนแสง เพื่อป้องกันเวลาวิ่งตอนช่วงเช้าหรือหัวค่ำ คนอื่นๆ จะได้สังเกตเห็นได้
ข้อมูลแน่นขนาดนี้พอจะทำให้ผู้อ่านตัดสินใจเลือกซื้อรองเท้าออกกำลังกายได้หรือยัง หากยังไม่รู้จะเลือกแบบไหน สไตล์ไหน ลองคลิกที่ www.rev.co.th ที่ REV เราแยก category รองเท้าให้ได้เลือกใช้งานอย่างถูกประเภท ทั้งรองเท้าวิ่ง รองเท้าเทรนนิ่ง รองเท้าวิ่งเทรล รองเท้าไลฟ์สไตล์ รองเท้าผู้หญิง รองเท้าผู้ชาย อุปกรณ์วิ่ง ฯลฯ เราแยกมาให้อย่างชัดเจน เพื่อช่วยให้ลูกค้าทุกท่านเลือกซื้อรองเท้าได้ตามความต้องการ นอกจากนี้เรายังมีโปรโมชั่นประจำเดือน และโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าใหม่ รับส่วนลดไปเลย 150 บาท สามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดในการเลือกซื้ออุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าที่ไม่มีเวลาเดินทาง สามารถช้อปผ่านช่องทางออนไลน์ เราจัดส่งทั่วประเทศและมั่นใจได้ว่าสินค้าทุกชิ้นจาก REV เป็นของเเท้ 100% สำหรับใครที่มีแต่รองเท้าวิ่ง อยากจะใส่เทรนนิ่งในยิมหรือฟิตเนสก็ได้ แต่สำหรับใครที่มีแต่ รองเท้าเทรนนิ่ง เราไม่แนะนำให้นำมาใส่วิ่งเอาท์ดอร์ เพราะรองเท้าเทรนนิ่งไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รองรับแรงกระแทกที่หัวเข่า อาจทำให้ผู้สวมใส่เกิดการบาดเจ็บขึ้นได้ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rev.co.th ติดต่อ : https://www.rev.co.th/contact-us Line: https://lin.ee/PCz490D Facebook : https://www.facebook.com/sportsrev.th Instagram : https://www.instagram.com/rev.runnr
รองเท้า กระโดด เชือก ยี่ห้อไหนดี
10 อันดับ รองเท้ากระโดดเชือก ยี่ห้อไหนดี รับแรงกระแทก ยึดเกาะดี – สำหรับสายออกกำลังกาย วันนี้เราได้นำรองเท้ากระโดดเชือกมาแนะนำกันถึง 10 รุ่น โดยแต่ละรุ่นจะมาพร้อมกับคุณสมบัติเด่นในด้านใดบ้าง ลองมาพิจารณาและเลือกไปใช้งานกันดูนะครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Adidas รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น GZ9258 / GZ9257 | LAZADA SHOPEE | ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลที่มีคุณภาพ ทั้งรักษ์โลกและรักสุขภาพของคุณ | |
2 | REEBOK รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น Flexagon Energy TR 3 | LAZADA SHOPEE | นุ่มสบาย ใส่กระชับเท้า สามารถช่วยลดแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี | |
3 | Nike รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น Revolution 6 | LAZADA | เพิ่มความทนทาน เบาสบาย เหมาะกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ดี | |
4 | PUMA รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น Velocity Nitro 2 Women’s Running Shoes | LAZADA SHOPEE | มีฟังก์ชัน PUMAGRIP ที่พิเศษเฉพาะตัว ช่วยยึดเกาะได้ทุกพื้นผิว | |
5 | Camel รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น A133046140 | LAZADA SHOPEE | สัมผัสถึงความนุ่ม สบาย ช่วยให้เพลิดเพลินกับการออกกำลังกาย | |
6 | Kawasaki รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น K-098 | SHOPEE | รองเท้าที่ใส่ได้ทั้งผู้ชายและหญิง เหมาะกับกีฬาที่ใช้แรงกระโดด | |
7 | Baoji รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น W Let s Go Balen Storm II BJW619 | LAZADA SHOPEE | รองเท้าคุณภาพดี มีความโปร่งสบาย มาพร้อมวัสดุระบายอากาศ | |
8 | Bata รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น XoRise+ 500 GT | LAZADA SHOPEE | มีฟังก์ชัน Orthoite ลดกลิ่นเหม็นอับ รองรับการใช้ในทุกกิจกรรม | |
9 | ASICS รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น GEL-KAYANO 28 MEN | LAZADA SHOPEE | โดดเด่นในการรองรับเท้า ช่วยให้เคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ | |
10 | Xtep รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น Professional Sports Fashion | LAZADA SHOPEE | ดีไซน์แบบแฟชั่น สามารถระบายอากาศได้ดี มีแผ่นรองรับการกดทับ |
เท้าแบนใส่รองเท้าผ้าใบแบบไหน
5 วิธี เลือกรองเท้าอย่างไรให้เหมาะกับรูปเท้าตัวเอง – 21 พฤศจิกายน 2561 5 วิธี เลือกรองเท้าอย่างไรให้เหมาะกับรูปเท้าตัวเอง เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงไม่เคยสังเกตรูปเท้าของตัวเอง ที่อาจมีลักษณะแตกต่างจากคนอื่นอยู่เล็กน้อย จึงเป็นสาเหตุให้รองเท้าที่เราใส่สบาย เพื่อนอาจจะใส่ไม่สบาย หรือไม่ก็หาซื้อรองเท้ายากไปเลย ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ จึงอยากจะมาแนะนำคุณผู้หญิงทุกคน เกี่ยวกับการเลือกซื้อรองเท้าให้สวมใส่ได้สบายเหมาะกับรูปเท้าของตัวเอง ส่วนขั้นในการเช็กรูปเท้าเบื้องต้นก็ง่ายๆ เริ่มจากตรวจสอบการเดิน โดยสังเกตท่าทางการเดิน การยืน การลงน้ำหนักของเท้า การวัดขนาดเท้า การเช็กสภาพเท้า ไม่ว่าจะเป็นฝ่าเท้า ลักษณะเนื้อผิว รวมถึงความสามารถในการเคลื่อนไหวเท้าพื้นฐาน 4 อย่าง ได้แก่ การกระดกข้อเท้าขึ้นและลง การปัดหน้าเท้าเข้าและออก จากนั้นลองมาดูว่าสาวๆ มีรูปเท้าแบบไหน พร้อมนำเคล็ดลับไว้เลือกรองเท้าคู่ใจตามรูปเท้าด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ 1.
- เท้าแบนราบ DO สาวรูปเท้าแบนราบ เนื้อเท้าน้อย ควรใส่รองเท้าคัตชู แบบปิดหมดหรือแบบแพลตฟอร์ม จะช่วยเสริมให้ดูอิ่ม มีเนื้อเท้ามากขึ้น หรือรองเท้าสานที่มีลวดลายด้านหน้า เพื่ออำพรางส่วนที่เป็นจุดอ่อน DON’T ไม่ควรใส่รองเท้าเปลือยหรือรองเท้าที่เผยให้เห็นเนื้อเท้า เพราะจะยิ่งเห็นจุดด้อยที่เท้ามากขึ้น 2.
- ปลายเท้าบาน กว้าง เท้าอูมหนา หน้าเท้ากว้าง DO ปลายเท้าบานน่าจะเป็นรูปเท้าที่สาวๆ หลายคนไม่ชื่นชอบ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะสามารถแก้ไขได้ ด้วยการเลือกรองเท้าที่มีหัวกว้างหรือหัวเหลี่ยม ควรเลือกส้นรองเท้าสูงเรียว จะทำให้ช่วงขาดูเพรียวยาวขึ้น DON’T ไม่ควรเลือกรองเท้าหัวแหลม เพราะจะบีบปลายเท้า หลีกเลี่ยงรองเท้าแบบแพลตฟอร์มด้านหน้าสูง เพราะจะทำให้เท้าดูตัน 3.
เท้าใหญ่อูม ช่วงขาใหญ่ DO สาวเจ้าเนื้อที่มีเท้าใหญ่อูม ช่วงขาใหญ่ ควรเลือกรองเท้าสีเข้ม เพราะจะช่วยพรางให้ดูเล็กลง และส้นไม่สูงจนเกินไป นอกจากนี้ ควรเลือกรองเท้าที่หัวไม่แหลมเกินไป ส้นเพรียว ส่วนสาวๆ ที่อยากใส่รองเท้ามีลวดลาย ควรเลือกที่มีลวดลายเล็กน้อย หรือรัดข้อเท้าเส้นบางๆ DON’T ควรหลีกเลี่ยงรองเท้าที่เผยให้เห็นเนื้อเท้า 4.
ลักษณะอุ้งเท้าโค้ง สาวๆ หลายคนอาจนึกภาพไม่ออก เรามีคำอธิบายนั่นก็คือ ลักษณะอุ้งเท้าที่มีส่วนโค้ง ส่วนเว้ามาก จะมีเนื้อน้อยกว่าอุ้งเท้าแบบอื่นๆ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาปวดบริเวณฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้า เพราะการรับน้ำหนักของอุ้งเท้าส่วนกลางหายไป DO ควรเลือกรองเท้าที่มีลักษณะเสริมอุ้งเท้า เพื่อช่วยกระจายน้ำหนักจากฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้ามาที่อุ้งเท้า และควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นนิ่มและมีความยืดหยุ่น หรือใส่รองเท้ามีส้น DON’T ควรหลีกเลี่ยงรองเท้าที่มีพื้นแข็ง เพราะจะทำให้ปวดเมื่อยได้ง่าย เนื่องจากการกดน้ำหนักจากฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้ามีค่อนข้างเยอะ 5.
รูปเท้าเรียวยาวได้รูป เป็นที่น่าอิจฉาของสาวๆ หลายคนที่มีรูปเท้าเรียวยาวได้รูป สำหรับสาวๆ ที่มีรูปเท้าเรียวยาวได้รูป สามารถเลือกใส่รองเท้าได้หลากสไตล์ เพราะไม่ว่าจะเลือกใส่รองเท้าทรงไหนก็ดูสวยไปหมด เพียงเท่านี้ เราก็สามารถเลือกรองเท้าสวยๆ ที่มีดีไซน์เหมาะกับรูปเท้าของเราได้แล้ว แต่ถ้ายังไม่แน่ใจ ให้ลองไปเลือกที่โซนรองเท้าผู้หญิงของห้างเซ็นทรัล เพราะที่นั่นจะมี Shoe Specialist ผู้เชี่ยวชาญด้านการเลือกรองเท้าให้เหมาะกับรูปเท้าคอยให้ความช่วยเหลืออยู่จ้า Credit : https://www.thairath.co.th/content/1355803
คนเท้าแบนวิ่งได้ไหม
คนเท้าแบนมักมีปัญหาเท้าบิดเข้าด้านใน หากวิ่งลงน้ำหนัก อาจทำให้บาดเจ็บได้ง่าย และยังเป็นสาเหตุของอาการปวดเข่าและปวดหลังอีกด้วย มีงานวิจัยที่แสดงว่า การมีเท้าแบนมีผลต่ออาการบาดเจ็บของนักวิ่งไม่มาก และหากเกิดการบาดเจ็บซ้ำๆ โดยไม่แก้ไข อาจส่งผลบาดเจ็บเรื้อรังในอนาคตได้
รองเท้าวิ่งเทรล Salomon ดีไหม
Salomon Ultra Glide รองเท้าเทรลแบบ Hybrid ปฐมบทใหม่ของซาโลมอน 2001 Views 0 Liked Posted on: 10/28/2021 รองเท้าเทรลของ Salomon เริ่มต้นด้วยรุ่น Speedcross ที่มีจุดเด่นเรื่องดอกลึก ดอกหนา เรียกว่าไต่เขาเหมือนเดินบนพื้นราบ ไม่มีลื่นแน่ๆ แต่ข้อด้อยก็คือเมื่อต้องวิ่งบนถนนลาดยางหรือถนนคอนกรีตมันจะกระด้างเท้ามาก กลุ่มนักวิ่งที่ชื่นชอบคาแรคเตอร์รองเท้าวิ่งเทรลแบบนี้มีไม่มาก ต่อมาทาง Salomon ต้องการเพิ่มความสบายตอนวิ่งขึ้นไปอีก เลยคลอดรุ่น Sense Ride ออกมา คือออกแบบดอกยางใหม่ให้เล็กลงและไม่ลึกเท่า โดยเน้นประสิทธิภาพการจิกดินจากการวางแพทเทิร์นดอกยางมากกว่า และใช้วัสดุโฟมใหม่ ให้มีความนุ่มสบายมากขึ้น ดังนั้นเมื่อเจอถนนลาดยางหรือถนนคอนกรีตจะไม่สะท้านเท้าเท่ารุ่น Speedcross แต่ก็ยังไม่สบายขั้นสุดเพราะพื้น Midsole บาง เพื่อให้เราวิ่งเทรลแล้วยังรู้สึกถึงสภาพพื้นเทรลอยู่ตามชื่อรุ่น “Sense Ride” นั่นเอง และล่าสุด Salomon รุ่น Ultra Glide ออกแบบมาให้พื้น Midsole หนาขึ้น ลดแรงกระแทกลงไปเยอะมาก และยังออกแบบทรงรองเท้าให้เป็นแบบ Rocker Shape คือเชิดหน้า เชิดหลัง ทำให้จังหวะการวิ่งของเราสมูทมากขึ้น,
- และผมเองก็ได้เอา Salomon Ultra Glide ไปวิ่งทดสอบมาแล้ว และขอเปิดหัวไว้ก่อนเลยครับว่า “เจอถนนนึกว่าวิ่งกับ Hoka Rincon ไต่เขาก็หนึบใช้ได้”
- วิดีโอที่ใส่ Salomon Ultra Glide ซ้อม
- เริ่มกันที่จุดเด่นของ Salomon Ultra Glide กันก่อนเลย
วิ่งเทรล มีกี่ระยะ
การวิ่งเทรล (Trail Running) – เป็นกีฬาการวิ่งระยะไกลอีกประเภทหนึ่งที่ผสมผสานระหว่างการวิ่ง และการปีนไต่เขา โดยเส้นทางการวิ่งจะเป็นพื้นที่ลาดชัน มีภูเขา ป่า ทุ่งหญ้า เนินเขา หรือเส้นทางวิ่งคดเคี้ยว เป็นต้น ซึ่งเส้นทางในการวิ่งค่อนข้างจะลำบากและมีความท้าทาย มีแอ่งน้ำ พื้นดินมีโคลน ก้อนหิน ดินทราย จะไม่ใช่พื้นที่ราบเรียบ เหมือนการวิ่งในเมืองทั่วไป โดยการวิ่งเทรลนั้นจะได้ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วน เพราะต้องมีการวิ่งขึ้นวิ่งลง ไต่ กระโดด และการใช้มือยึดค้ำ ทำให้กล้ามเนื้อ ปอดและหัวใจต้องทำงานหนักมากกว่าการวิ่งแบบธรรมดาทั่วไป ซึ่งจะทำให้ร่างกายเราแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแน่นอน การวิ่งเทรลมีประโยชน์หลายอย่าง โดยระหว่างการวิ่งจะได้สัมผัสธรรมชาติรอบข้างอย่างใกล้ชิด และยังมีบรรยากาศเงียบสงบ ซึ่งจะทำให้เรามีสมาธิในการวิ่งได้ดีขึ้นอีกด้วย สำหรับใครที่ชอบการวิ่งประเภทนี้ ส่วนใหญ่งานจัดแข่งขันการวิ่งเทรลจะแบ่งออกเป็นหลายระยะทาง เริ่มตั้งแต่ 15 กิโลเมตร 25 กิโลเมตร 50 กิโลเมตร ไปจนถึง 100 กิโลเมตร และมีสนามแข่งขันที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละภูมิประเทศที่มีการจัดงาน ที่คอยสร้างความท้าทายและน่าตื่นเต้นให้กับนักแข่งได้เสมอ เพราะเราจะได้ลุ้นว่าในแต่ละครั้งเส้นทางในการวิ่งนั้นจะมีภูเขาให้เราได้ไต่กี่ลูก มีความชันและสภาพเส้นทางการวิ่งประเภทนี้เป็นอย่างไร รวมทั้งยังทำให้นักวิ่งมืออาชีพและนักวิ่งที่เพิ่งจะเริ่มต้นได้ฝึกการวางแผนกลยุทธ์ในการวิ่งอย่างรัดกุมมากยิ่งขึ้น
รองเท้า Hiking กับ Trail ต่างกันยังไง
รองเท้า เดินป่า( Hiking / Trekking Shoes) #น้ำหนักมากกว่า รองเท้า เทรล เนื่องจากพื้น รองเท้า ที่หนาเพื่อรองรับการกระแทก เนื้อผ้าที่หนาหรือ กัน น้ำซึ่งมีน้ำหนักมากกกว่า ไอตรงการ กัน น้ำเนี่ย มัน กัน น้ำทั้งน้ำเข้า และ กัน น้ำออกด้วยเช่น กัน เวลาเปียกจึงใช้เวลานานกว่าจะแห้ง
Ultra Boost ใส่วิ่งได้ไหม
สรุปแล้ว คู่นี้ Ultraboost 22 เหมาะกับใคร คอนเฟิร์ม ว่า นักวิ่งสายซัพ ขอแนะนำคู่นี้เลย เน้นวิ่งยาว วิ่งสั้น วิ่งสบาย ไม่ทำความเร็วมาก และไม่ยึดติดกับเรื่องน้ำหนัก โฟมมาย่อมน้ำหนักเยอะเป็นธรรมดา ส่วนใครที่ข้อเท้าไม่ดี พลิกง่าย ใส่คู่นี้แล้ว น่าจะรู้สึกมั่นใจในการลงเท้ามากขึ้น
รองเท้า adidas Cloudfoam ใส่วิ่งได้ไหม
📣 ใส่วิ่งก็ดี ใส่เก๋ๆ ก็ได้!!! 👟 ใหม่ Adidas Cloudfoam Pure 💬 สาวๆ ต้องลองจะใส่วิ่งก็ดี หรือใส่เดินชิลๆ ก็ได้ ดีงามมมมม 😊 เราจะบอกให้ รุ่นนี้มีดีอย่างไรรร 👟 พื้นรองเท้าเบาสบายมากกกกกกก 👟 รุ่นนี้สำหรับสาวๆโดยเฉพาะ มีให้เลือกตั้ง 5 สีนะ 🔥 ในส่วนของราคานั้น อยู่ที่ 2,500. – ค่าาา
วิ่งแบบไหนดีที่สุด
เดิน/ วิ่ง เหยาะ (Aerobic) = เข้มข้นปานกลาง > เบิร์นไขมัน ดี แต่ใช้แคลอรี่น้อย วิ่ง เร็ว (Anaerobic) = เข้มข้นสูง > หายใจสั้น ออกซิเจนเข้ากระแสเลือดต่ำ > เบิร์นไขมันไม่ทันเลย ดึงพลังงานจากไกลโคเจนมากกว่า
รองเท้าออกกำลังกาย แบบไหน
รองเท้ากีฬาเลือกแบบไหนดี –
- รองเท้ากีฬาสำหรับออกกำลังกาย
- 1.เลือกรองเท้าให้เหมาะกับรูปแบบการออกกำลังกาย
- ควรเลือกรองเท้าให้เหมาะกับรูปแบบการออกกำลังกาย เช่น การออกกำลังกายในร่มหรือฟิตเนสทั่วไป ควรเลือกรองเท้ากีฬาที่มีความสบาย มีน้ำหนักเบาและสามารถยึดเกาะได้ดีกับทุกสภาพพื้นผิว หากเป็นการออกกำลังกายนอกสถานที่หรือการออกกำลังกายกลางแจ้ง ควรเลือกเป็นรองเท้ากีฬาหรือรองเท้าวิ่งสำหรับกลางแจ้ง ที่นอกจากนุ่มสบายแล้ว ควรรองรับแรงกระแทกในระหว่างวิ่ง หรือเล่นกีฬาได้เป็นอย่างดีด้วย
- 2.เลือกรองเท้าแบบเฉพาะเจาะจงของประเภทกีฬา
- ปัจจุบันมีรองเท้ากีฬาให้เลือกซื้อหลากหลายรุ่น หลากหลายแบรนด์ เพื่อตอบโจทย์ทุกประเภทกีฬา ฉะนั้นถ้าออกกำลังกายด้วยการเล่นบาสเกตบอล ควรเลือกซื้อรองเท้าสำหรับเล่นบาสเกตบอล หรืออธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ เล่นกีฬาประเภทไหน ก็ซื้อรองเท้าตามประเภทนั้น อาทิ รองเท้ากีฬาสำหรับเล่นฟุตบอล รองเท้าเล่นเทนนิส รองเท้าเล่นกอล์ฟ รองเท้าเล่น หรือ เพื่อให้ได้รองเท้ากีฬาที่ช่วยซัพพอร์ตเท้าของเราขณะออกกำลังกาย
- เป็นเจ้าของรองเท้ากีฬาคู่สวย ด้วยบัตรเครดิตกรอกข้อมูลที่นี่
- 3.เลือกรองเท้าให้เหมาะกับทรงเท้าของเรา
- ลักษณะกายภาพเท้าของแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกัน บางคนรูปเท้าอาจมีลักษณะเรียว เท้าแบน หรือเท้ามีลักษณะโค้ง ซึ่งการเลือกซื้อรองเท้าให้เหมาะสมกับทรงเท้างผู้สวมใส่ นอกจากช่วยให้สวมใส่สบายแล้ว ยังช่วยไม่ให้เราได้รับบาดเจ็บจากการใส่รองเท้าอีกด้วย ทำให้สามารถออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ไม่รู้สึกปวดเมื่อยในขณะสวมใส่รองเท้าคู่นั้น ๆ
- 4.ทดสอบรองเท้าทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ
- รองเท้าออกกำลังกาย รองเท้ากีฬา หรือ ในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ แน่นอนว่าการเลือกให้เหมาะสมกับตัวเราเองนั้นคือ ทดลองสวมใส่และลองเคลื่อนไหว เพื่อดูว่ารองเท้ากีฬาที่สนใจมีขนาดที่พอเหมาะ ไม่คับแล้วไม่หลวมจนเกินไป ใส่แล้วลองเคลื่อนไหวด้วยการเดิน วิ่ง หรือกระโดด ว่ารองเท้ามีการหลุดหรือไม่ ที่สำคัญเวลาทดลองสวมอย่าลืมสวมถุงเท้าด้วย จะได้รู้ว่ามีบางส่วนของเท้าโดนบีบ หรือโดนเสียดสีมากเกินไปหรือไม่
- การวิ่งออกกำลังกาย พร้อมรองเท้าที่ดี
- การเลือกรองเท้ากีฬาในปัจจุบันมีตัวเลือกให้เราสามารถเลือกซื้อได้อย่างหลากหหลาย ไม่ว่าจะเป็นตัวเลือกจากแบรนด์ดังต่างๆ ไปจนถึงรุ่นยอดนิยมที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้ ที่เหมาะสำหรับการออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬา นอกจากนี้แล้วคุณยังสามารถเลือกซื้อรองเท้ากีฬาลดราคา พร้อมโปรโมชั่นพิเศษอื่นๆผ่านการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต ไม่ว่าเป็นการเลือก หรือการเลือกชำระผ่านบัตรเครดิตพร้อมรับ ที่ช่วยให้คุณเป็นเจ้าของรองเท้ากีฬาได้ในราคาถูกประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย
- ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี
: มาดู 4 เทคนิคเลือกรองเท้ากีฬา ให้เหมาะกับแต่ละคน
รองเท้า กระโดด เชือก ยี่ห้อไหนดี
10 อันดับ รองเท้ากระโดดเชือก ยี่ห้อไหนดี รับแรงกระแทก ยึดเกาะดี – สำหรับสายออกกำลังกาย วันนี้เราได้นำรองเท้ากระโดดเชือกมาแนะนำกันถึง 10 รุ่น โดยแต่ละรุ่นจะมาพร้อมกับคุณสมบัติเด่นในด้านใดบ้าง ลองมาพิจารณาและเลือกไปใช้งานกันดูนะครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Adidas รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น GZ9258 / GZ9257 | LAZADA SHOPEE | ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลที่มีคุณภาพ ทั้งรักษ์โลกและรักสุขภาพของคุณ | |
2 | REEBOK รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น Flexagon Energy TR 3 | LAZADA SHOPEE | นุ่มสบาย ใส่กระชับเท้า สามารถช่วยลดแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี | |
3 | Nike รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น Revolution 6 | LAZADA | เพิ่มความทนทาน เบาสบาย เหมาะกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ดี | |
4 | PUMA รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น Velocity Nitro 2 Women’s Running Shoes | LAZADA SHOPEE | มีฟังก์ชัน PUMAGRIP ที่พิเศษเฉพาะตัว ช่วยยึดเกาะได้ทุกพื้นผิว | |
5 | Camel รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น A133046140 | LAZADA SHOPEE | สัมผัสถึงความนุ่ม สบาย ช่วยให้เพลิดเพลินกับการออกกำลังกาย | |
6 | Kawasaki รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น K-098 | SHOPEE | รองเท้าที่ใส่ได้ทั้งผู้ชายและหญิง เหมาะกับกีฬาที่ใช้แรงกระโดด | |
7 | Baoji รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น W Let s Go Balen Storm II BJW619 | LAZADA SHOPEE | รองเท้าคุณภาพดี มีความโปร่งสบาย มาพร้อมวัสดุระบายอากาศ | |
8 | Bata รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น XoRise+ 500 GT | LAZADA SHOPEE | มีฟังก์ชัน Orthoite ลดกลิ่นเหม็นอับ รองรับการใช้ในทุกกิจกรรม | |
9 | ASICS รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น GEL-KAYANO 28 MEN | LAZADA SHOPEE | โดดเด่นในการรองรับเท้า ช่วยให้เคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ | |
10 | Xtep รองเท้ากระโดดเชือก รุ่น Professional Sports Fashion | LAZADA SHOPEE | ดีไซน์แบบแฟชั่น สามารถระบายอากาศได้ดี มีแผ่นรองรับการกดทับ |
Ultraboost รุ่นไหนดีสุด
ใส่ชิลๆ / ใส่เดินจริงจัง / ใส่ทำงาน – ก่อนจะมาถึงหัวข้อนี้ ขอแนะนำให้ทุกท่านตอบคำถามข้อแรกของเราเสียก่อนนะครับว่า “ชอบแบบหุ้มข้อหรือป่าว? และชอบแบบมีเชือกห้อยหรือไม่?” ถ้าตอบได้แล้ว มาลุยหัวข้อนี้ต่อเลยครับ เราขอแบ่งเป็น 3 อย่างดังนี้ ถ้าคุณอยากใส่ชิลๆ ในวันสบายๆ เราแนะนำ Ultraboost 4.0 เลยครับ ใส่ง่าย เข้าได้กับทุกชุด แถมได้ทรงที่สวยที่สุดในสายตาเรา แต่ถ้าคุณกำลังอยากได้รองเท้าไว้ใส่เดินจริงจัง ใส่ไปเดินเที่ยวแบบ 15 กิโลเมตรแนวเดินเที่ยวญี่ปุ่น ต้องเลือก Ultraboost Laceless เพราะกระชับกว่า เดินระยะไกลๆ ได้ง่ายและสะดวกมากกว่า ส่วนใครที่อยากได้รองเท้าแนวไปไหนไปกัน ไม่อยากมานั่งคิดเยอะว่าจะเจออะไรบ้างในแต่ละวัน ไม่ต้องระวังอะไรให้วุ่นวายมากนักก็ Ultraboost ATR ได้เลย ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีที่สุดจากทั้ง 3 ตัวนี้ครับ
แต่ถ้าให้เราฟังธง ณ ตอนนี้ ขอเลือก Ultraboost Laceless คู่สีดีๆ สักคู่หนึ่งครับ ใส่เดินสบายจริง กระชับ และทรงสวยกว่า Uncaged และ ATR ในสายตาเรา (แต่เจ้า adidas x Reigning Champ Ultraboost ATR นี่มันน่าโดนจริงๆ) แต่จนแล้วจนรอดก็อยู่ที่คุณครับว่า “อยากใส่สวยๆ หรืออยากใส่แบบ Functional จริงจัง” ถ้าให้ดี แนะนำให้ไปลองที่ร้าน SEEK Thailand เลยครับ มีครบทุกรูปแบบ (รวมถึง Uncaged ด้วย) แต่เป็นเรา คงทำการบ้านไปก่อนล่วงหน้า เพราะถึงเวลาจริงๆ รับรองว่าคุณจะเลือกไม่ถูกแน่นอน