STORE FINDER | Onitsuka Tiger Thailand Next 1 ONITSUKA TIGER GLOBAL FLAGSHIP STORE SIAM SQUARE ONE Siam Square One 388 Unit No. FSLG001,1001-1002 Rama I Rd, Khwaeng Pathum Wan, Khet Pathum Wan, Bangkok 10330 เบอร์ติดต่อ
Contents
Onitsuka Tiger ของแท้ ซื้อที่ไหน
ลิสต์ราคา รองเท้า Onitsuka Tiger ยอดนิยมปี 2023
10 อันดับสินค้ายอดนิยม | ราคา | ร้านค้า |
---|---|---|
onitsuka tiger Onitsuka Tiger Slip On โดมพลอย ของแท้ 100% | 2,800 บาท | Shopee |
Onitsuka Tiger (พร้อมส่ง)รองเท้า Onitsuka Tiger Mexio 66 | 3,850 บาท | Shopee |
Onitsuka Tiger Mexico66 Dl408-1659 Birch/India Ink | 3,600 บาท | Shopee |
Onitsuka มีกี่สาขา
สาขา Onitsuka Tiger ทั้งหมด 20 สาขา – Sale Here.
Onitsuka Tiger รุ่นไหนดี ผู้หญิง
รองเท้า Onitsuka Tiger Mexico66 Slip on White/White – รูปภาพจาก onitsukatiger.com ราคา 2,999 บาท* รองเท้าคู่นี้เป็นหนึ่งในตระกูลของรุ่น Mexico66 ครับ โดยสิ่งที่แตกต่างออกไปจากตัวอื่นคือรองเท้าจะเป็นแบบ Slip-on ซึ่งจะไม่มีเชือกผูกรองเท้า แต่รูปทรงยังคงความเป็น Sneaker เอาไว้ นอกจากนี้ตัวผ้าก็มีความทนทานสูงเป็นพิเศษ เรียกว่าจ่ายเพียงครั้งเดียวแต่ใช้ได้คุ้มไปอีกหลายปี ทั้งนี้การดีไซน์ก็สวยงาม มีการใช้สี White/White ซึ่งทางในทางแฟชั่นนั้นทราบกันดีอยู่แล้วว่ามันแมตช์ง่ายและใส่ได้ในทุกสถานการณ์
Onitsuka Tiger หายไปไหน
4 เหตุผลที่ทำให้ Onitsuka Tiger ขายดิบขายดีไปทั่วโลก Onitsuka Tiger แบรนด์รองเท้าสัญชาติญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางฝั่งยุโรป ซึ่งเรามักจะเห็นร้านของ Onitsuka Tiger ในญี่ปุ่นเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถือว่าเป็นการการันตีความเป็นที่นิยมของรองเท้าแบรนด์นี้ได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจว่าทำไม Onitsuka Tiger ถึงได้รับความนิยมจากทั้งต่างชาติและคนญี่ปุ่น ก่อนอื่นขอเล่าถึงประวัติความเป็นมาคร่าว ๆ ของ Onitsuka Tiger ก่อนนะคะ เมื่อปี ค.ศ.1949 คุณคิฮะจิโร่ โอนิซึกะ ได้ก่อตั้งแบรนด์รองเท้ากีฬาภายใต้ชื่อ Onitsuka Tiger ขึ้นมา โดยเริ่มจากการผลิตรองเท้าสำหรับเล่นบาสเก็ตบอล รองเท้าวิ่ง เพื่อขายให้กับชมรมกีฬาของโรงเรียนมัธยมปลาย และต่อมาธุรกิจเติบโตขึ้นจนได้เป็นผู้ผลิตรองเท้าให้กับนักกีฬาโอลิมปิก
- ที่มาของชื่อแบรนด์อันเป็นเอกลักษณ์อย่าง Onitsuka Tiger เรื่องมีอยู่ว่า ผู้ก่อตั้งแบรนด์เกิดถูกใจใน “มาร์กรูปเสือ” ที่เจ้าของโรงงานผลิตรองเท้าบาสเก็ตบอลรุ่นแรก พิมพ์ใส่ลงไปที่ด้านหลังของรองเท้าเล่น ๆ เขาเชื่อว่าในภูมิภาคเอเชีย เสือถือเป็นสัตว์ที่แข็งแกร่งที่สุด หากนำคำว่า Tiger มารวมกับคำว่า Oni ซึ่งแปลว่ายักษ์ ในชื่อ Onitsuka จะทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูแข็งแกร่งเหนือคำบรรยายเลย ชื่อแบรนด์ Onitsuka Tiger จึงถือกำเนิดขึ้นมา ณ ตอนนั้น
- จริงหรือไม่? ที่การเปลี่ยนชื่อแบรนด์ ทำให้ความนิยมของ Onitsuka Tiger ลดลง ในปี 1960 Onitsuka Tiger ขยายตลาดเข้าสู่อเมริกาได้สำเร็จตามคำชักชวนของบริษัท BRS (ชื่อเดิมของ NIKE) และเมื่อถึงปลายฤดูกาลโอลิมปิก ผลประกอบการเริ่มย่ำแย่ Onitsuka Tiger จึงแยกตัวออกจาก BRS และมีการเปลี่ยนชื่อแบรนด์รวมถึงชื่อบริษัทเป็น “ASICS” ทำให้ชื่อของ Onitsuka Tiger เงียบหายไปจากตลาดพักใหญ่
- หลังจากหายหน้าหายตาไปเป็นเวลา 25 ปี Onitsuka Tiger ได้กลับมาอีกครั้งในปี 2002การปรากฏตัวในภาพยนตร์สุดฮิตอย่าง Kill Bill ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของ Onitsuka Tiger เปลี่ยนไป กลายเป็นแบรนด์ที่มีอิทธิพลด้านแฟชั่น
- อูมา เธอร์แมน นักแสดงนำในเรื่อง สวมรองเท้าผ้าใบ Onitsuka Tiger รุ่น Taichi สีเหลือง ซึ่งรุ่นนี้ผลิตออกมาเพียง 3,400 คู่ เท่านั้น ถือเป็นรุ่นหายากเลยทีเดียว
- การยกระดับตัวเองจากแบรนด์กีฬาสู่แบรนด์แฟชั่น ทำให้ Onitsuka Tiger กลายเป็นรองเท้าที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลกณ เวลานี้ ไม่เพียงแต่สวมใส่เพื่อเล่นกีฬาเท่านั้น Onitsuka Tiger ยังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่แฟชั่นนิสต้าทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป หรือแม้กระทั่งในญี่ปุ่นเอง Onitsuka Tiger ก็กลายเป็นแบรนด์ที่ถูกจับตามองเป็นอย่างมาก และนอกจากนี้ทุกคนคงจะเคยเห็นภาพที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ของไทย ทรงสวม Onitsuka Tiger ในสื่อโซเชียล นั่นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น
- จบประวัติย่อ ๆ ของแบรนด์แล้ว ต่อไปมาดูกันค่ะว่าเหตุผล 4 ข้อ ที่ทำให้ Onitsuka Tiger ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกนั้นมีอะไรบ้าง
- 1. ดีไซน์ของรองเท้าเป็นสไตล์วินเทจที่มีความร่วมสมัย เน้นประสิทธิภาพในการใช้งาน เสน่ห์ของแบรนด์คือ รูปทรงที่บางเบาและการจับคู่สีสันอย่างมีสไตล์ ออกมาเป็นรองเท้าแนววินเทจที่มองแว้บเดียวก็รู้ว่าเป็น Onitsuka Tiger ดีไซน์ส่วนใหญ่ของแบรนด์นี้ มักจะมีฟังก์ชั่นสำหรับนักกีฬา ซึ่งว่ากันว่าเสน่ห์และความสวยงามของรองเท้า Onitsuka Tiger จะปรากฏให้เห็นอีกครั้งเมื่อใช้งานไปเรื่อย ๆ สีของรองเท้าก็มีให้เลือกเยอะ ตั้งแต่สีแนวร่วมสมัยไปจนถึงสีแนววินเทจ การที่คุณจะเจอรองเท้าที่ถูกใจสักคู่จากแบรนด์นี้จึงไม่ใช่เรื่องยากเลย
-
2. ช่องทางการจำหน่ายมีจำกัด ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นรองเท้าผ้าใบระดับแบรนด์เนม แม้แต่ในญี่ปุ่นเอง Onitsuka Tiger ก็ไม่ได้มีวางขายตามร้านรองเท้าทั่ว ๆ ไป นี่คือกลยุทธ์ของ Onitsuka Tiger ซึ่งมีมาตั้งแต่ตอนที่หวนกลับมาทวงบัลลังก์คืน ถ้าคิดจะเอาแค่ยอดขายในระยะสั้น ๆ รองเท้า Onitsuka Tiger คงถูกวางขายเป็นจำนวนมากตามร้านขายรองเท้าทั่วไปเป็นแน่
ย้อนไปเมื่อปี ค.ศ.1999 สาขาในยุโรปประสบปัญหาขาดทุน สถานการณ์ของแบรนด์คงจะเลวร้ายกว่านี้ ถ้าหากไม่ได้คุณโอยะมะ ประธานกรรมการสาขายุโรป เขาผลักดันให้ Onitsuka Tiger กลายเป็นแบรนด์ที่สามารถขายได้เฉกเช่นเสื้อผ้าแบรนด์เนม โดยเริ่มตั้งแต่ใส่ใจรายละเอียดเรื่องคุณภาพและวัตถุดิบที่ใช้ รวมถึงการให้วางขาย Onitsuka Tiger ในร้านขายสินค้าแบรนด์เนมของอิตาลีและฝรั่งเศสเท่านั้น
- ลองคิดดูเล่น ๆ ว่า ถ้า Onitsuka Tiger มีขายอยู่ตามร้านขายรองเท้าทั่วไป อาจจะเป็นผลดีต่อผู้ซื้อในแง่ที่ว่าสามารถหาซื้อได้ง่าย แต่ในทางกลับกันก็อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น รองเท้าที่คุณเพิ่งซื้อมาใหม่ดันไปซ้ำกับลุงข้างบ้าน หรือไม่ก็ร้านขายรองเท้าแถวบ้านขายถูกกว่าในร้าน Onitsuka Tiger หากเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับผู้ซื้อบ่อย ๆ ความมีคุณค่าของแบรนด์ก็จะลดลง Onitsuka Tiger ได้คำนึงถึงจุดนี้ จึงจำกัดช่องทางการขายเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์เอาไว้
- 3. ราคามีความสมเหตุสมผล ตามนโยบายบริหารของทางแบรนด์ ต้องการให้ Onitsuka Tiger มีภาพลักษณ์ความเป็นรองเท้าแบรนด์เนมคุณภาพสูง และราคาจะต้องไม่แพง ยกตัวอย่างราคาของ รุ่น serrano ที่ใช้หนังแท้ ราคารวมภาษีเพียง 8,640 เยน (ประมาณ 2,600 บาท) หรือรุ่น MEXICO66 ที่ส่วน Upper เป็นหนังแท้ทั้งหมด ราคารวมภาษี 12,960 เยน (ประมาณ 3,900 บาท) แม้แต่รุ่น NIPPON MADE บางรุ่น ก็ยังสามารถซื้อได้ในราคาไม่เกิน 13,000 เยน
- 4. ภาพลักษณ์และชื่อแบรนด์มีความน่าค้นหา ชาวต่างชาติหลายคนให้ข้อมูลว่า ชื่อแบรนด์ Onitsuka Tiger ฟังดูมีความลึกลับน่าค้นหา และที่สำคัญคำว่า Onitsuka กับภาพเสือที่ดุร้ายช่างเข้ากันได้อย่างลงตัว และสื่อถึงความเป็นรองเท้าสัญชาติญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี
- นี่คือ 4 เหตุผลที่ทำให้ Onitsuka Tiger ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก เรียกได้ว่ามีความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบ การเลือกใช้วัตถุดิบ และการผลิต เพื่อให้ได้มาซึ่งรองเท้าที่ไม่ได้มีแค่ความสวยงาม แต่มีประสิทธิภาพดีและราคาก็สามารถจับต้องได้ รวมถึงกลยุทธ์ในการรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์นั่นเอง ที่ทำให้ Onitsuka Tiger ยกระดับตัวเองจากแบรนด์รองเท้ากีฬาสู่รองเท้าผ้าใบของเหล่าแฟชั่นนิสต้าทั่วโลก
- สรุปเนื้อหาจาก: otokomaekenผู้เขียน: monshapi
: 4 เหตุผลที่ทำให้ Onitsuka Tiger ขายดิบขายดีไปทั่วโลก
โอนิซึกะ ไทเกอร์ ของแท้ดูยังไง
หากสังเกตให้ดีจะพบว่า ข้างกล่องรองเท้าโอนิซึกะจะมีสติ๊กเกอร์แปะไว้ โดยตรง สติ๊กเกอร์นี่เอง ที่มีรายละเอียดต่าง ๆ ระบุเอาไว้ อาทิ รหัสรุ่น สี ไซส์ และแหล่งผลิตรองเท้ารุ่นนั้น ๆ สำหรับการตรวจสอบ ก็เพียงนำรหัสรองเท้าโอนิซึกะที่ระบุไว้ข้างกล่องไปค้นหาใน Google ว่าตรงกับสีรองเท้าหรือไม่
Onitsuka Tiger มาจากประเทศอะไร
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อุตสาหกรรม | Footwear |
---|---|
ก่อตั้ง | 1949 |
ผู้ก่อตั้ง | Kihachiro Onitsuka |
สำนักงานใหญ่ | ประเทศญี่ปุ่น |
บริษัทแม่ | ASICS |
เว็บไซต์ | http://www.onitsukatiger.com/en-us |
โอนิซูกะ ไทเกอร์ คือบริษัทผลิตรองเท้าที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ ญี่ปุ่น ซึ่งมีประวัติที่สามารถย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยเริ่มก่อตั้งบริษัท โอนิซูกะ จำกัด ในปี ค.ศ.1949 โดยนายทหารผ่านศึกอายุเพียง 32 ปี ชื่อคุณ คิฮาชิโร โอนิซูกะ ผู้ก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นพร้อมความหวังที่จะฟื้นฟูความรู้สึกของเหล่าวัยรุ่นในชาติหลังสงครามโลก ผ่านการกีฬา ผลิตภัณฑ์แรกของโอนิซูกะ ไทเกอร์ คือรองเท้ากีฬาบาสเก็ตบอลที่มีรูปแบบคล้ายรองเท้าฟางสานโบราณ ซึ่งรูปแบบดีไซน์นี้ได้ถูกต่อต้านและไม่เป็นที่ยอมรับจากหลายฝ่ายและทำให้คุณโอนิซูกะต้องกลับไปสู่กระบวนการออกแบบอีกครั้งเพื่อให้รูปแบบของรองเท้าของเขาสามารถตอบสนองการใช้งานที่สามารถให้นักกีฬาใช้งานได้อย่างคล่องตัวในการออกตัวและหยุดการเคลื่อนไหวในสนามกีฬาระหว่างการแข่งขัน โดยการเสริมรอยนูนและเพิ่มช่องว่างไว้ใต้พื้นรองเท้าบาสเก็ตบอล จากดีไซน์ที่คุณโอนิซูกะออกแบบใหม่นี้สามารถทำให้รองเท้าของเขามีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นในการใช้งาน และทำให้ในปี ค.ศ.1955 บริษัทผลิตรองเท้าของเขามียอดการค้าที่สูงขึ้นและสามารถขยายสาขาได้สูงถึง 500 สาขาทั่วเกาะญี่ปุ่น โอนิซูกะไทเกอร์ ได้ร่วมทำงานกับนักวิ่งมาราธอนที่ชื่อ โตรู ทีระซอล ในปี ค.ศ.1953 เพื่อที่จะพัฒนารองเท้าที่ใช้ใส่ในการวิ่งระยะไกลซึ่งจะช่วยนักวิ่งลดการเกิดแผลพุพอง นักวิ่งในตำนานของเอธิโอเปียที่ชื่อ อะบีบี้ บีกิล่า เริ่มสวมใส่รองเท้าโอนิซูกะ ไทเกอร์ ในปี ค.ศ.1957 ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติการเป็นนักวิ่งมืออาชีพที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยใส่รองเท้าในการวิ่งมาก่อนเลย โดยได้รับการชักชวนและสร้างความเชื่อมั่นจากนายโอนิซูกะ ว่าจะทำให้การวิ่งของเขามีประสิทธิภาพที่สูงกว่าการวิ่งเท้าเปล่าหลายเท่าตัว ในช่วงปลายปี ค.ศ.1950 ที่มหาวิทยาลัยโอระกอน มีนักวิ่งระยะกลางชื่อนาย ฟิลิป ไนค์ โดยผู้ฝึกสอนที่ชื่อ บิล โบวาแมน ผู้ที่เป็นหนึ่งในผู้ฝึกสอนระดับต้นๆ ของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผู้ฝึกสอนโบวาแมนนี้เป็นผู้ที่เป็นที่รู้จักในเรื่องการทดสอบออกแบบรองเท้าที่ใช้ในการวิ่งรูปแบบต่างๆ ที่จะทำให้รองเท้าที่ใช้ใส่วิ่งนั้นมีน้ำหนักที่เบาและรองรับแรงกระแทกได้มากกว่า หลังจากที่ได้รับการศึกษาที่มหาวิทยาลัยโอรากอน นายไนค์ได้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย สแตนฟอร์ด และได้เขียนบทความในวิยานิพนธ์ระหว่างการศึกษาปริญญาโทสาขา บริหารจัดการธุรกิจ ในหัวข้อเรื่อง การตลาดของธุรกิจรองเท้ากีฬา ซึ่งหลังจากจบการศึกษา ไนค์ได้เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นและได้เข้าติดต่อกับทางบริษัท โอนิซูกะ ไทเกอร์ จำกัด เพื่อชักชวนและแสดงให้เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจของตลาดรองเท้ากีฬาโอนิซูกะในประเทศสหรัฐอเมริกา และในปี ค.ศ.1963 ไนค์ได้รับการส่งสินค้าเที่ยวแรกของรองเท้าโอนิซูกะไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา และต่อมาไนค์และ โบวาแมนได้ร่วมลงทุนเป็นจำนวนเงินคนละ 500 เหรียญสหรัฐในการก่อตั้งร้าน บรูริบบอนสปอร์ตขึ้น ในปี ค.ศ.1964 โอนิซูกะ ได้จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหุ้นของโกเบ และเข้าตลาดหุ้นของโอซาก้าและโตเกียวในลำดับต่อมา ลายเส้นที่เรียกขานกันในชื่อ เอซิคน์ ได้มีการริเริ่มใช้ในการออกแบบครั้งแรกในปี ค.ศ.1966 ระหว่างการแข่งขัน คัดเลือก พรีโอลิมปิก ซึ่งเป็นการแข่งขันเกมกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศ แม็กซิโกในปี ค.ศ.1968 ลิมเบอร์เป็นสินค้ารุ่นแรกที่ได้ใส่รูปแบบการออกแบบโดยใช้ลายเส้น เอซิคน์ บนด้านข้างของรองเท้าในบริเวณช่วงบนของสินค้า เส้นสายเหล่านี้ได้กลายมาเป็นการออกแบบที่ได้รับความนิยมและเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญบนรองของโอนิซูกะไทเกอร์ ที่ใช้ชื่อว่า แม็กซิโก 66 ในเวลาต่อมาจวบจนปัจจุบัน ในปี ค.ศ.1968 บรูริบบอน สปอร์ต ได้เริ่มนำเข้าสินค้าในสายการผลิต ลิมเบอร์ เข้าสู่ตลาดประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ.1970 เป็นต้นมา โอนิซูกะ ไทเกอร์ ได้เริ่มนำเสนอสิ่งที่เรียกว่า ฟาบรี ที่ย่อมาจากคำว่า ฟาสเบรก ซึ่งเป็นท่าเคลื่อนไหวของกีฬาบาสเก็ตบอล ทีมกีฬาของประเมทศญี่ปุ่นได้สวมใส่รองเท้าที่มีดีไซน์ ฟาบรี นี้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ในปี ค.ศ.1972 ที่มูนิค ซึ่งทีมญี่ปุ่นได้อันดับที่ 14 ในการแข่งขันในปีนั้น ผู้ชนะเลิศในการแข่งขันประเภทกรีฑาที่วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่งในรุ่น 5,000 และ 10,000 เมตร ที่ชื่อ แลสซี่ วีเรน โดยได้สวมใส่รองเท้าของโอนิซูกะ ไทเกอร์ ระหว่างการแข่งขันทั้งสองประเภทที่กล่าวมา ในปี ค.ศ.1972 เจเล็งค์ และ โอนิซูกะ ได้รวมพลังของทั้งคู่ในด้านการเงินและตำแหน่งทางการตลาดของธุรกิจผลิตภัณฑ์กีฬาเข้าด้วยกัน และสร้างสำนักงานขายภูมิภาคขึ้นใกล้จังหวัด ฮอกไกโดเพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกภาคฤดูหนาวที่ ซับโปโร ซึ่งต่อมาได้ควบรวม 3 บริษัทเข้าด้วยกันและก่อตั้งเป็นบริษัท เอซิคน์ ในปัจจุบันบริษัทดังกล่าวยังคงใช้ชื่อการค้าเดิมในการจำหน่ายรองเท้าให้กับผู้ค้าต่างๆทั่วทุกภูมิภาคและทั่วโลก ชื่อ เอซิคน์ นี้เป็นคำย่อมาจากคำว่า “เอนิม่า ซาน่า อิน คอลโปเร ซาโน่” ที่แปลว่า “หัวใจและวิญญาณที่แข็งแกร่งในร่างที่แข็งแรง” ซึ่งเป็นการดัดแปลงมาจากคำพังเพยโบราณใน จูวีนาล และที่อื่นๆ Mens sana in corpore sano ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้ให้ความสนใจในการแปลความหมายและชื่อย่อที่ผสมผสานตัวอักษรของชื่อเต็มเหล่านั้น
ช็อป โอ นิ ซึ กะ เซ็นทรัล เว สเกตอยู่ชั้นไหน
Onitsuka Tiger. Nippon made แวะไปดู ที่ช๊อบ เวสเกต ชั้น1 ฝั่งพลาซ่านะคะ
Onitsuka Tiger เมดอินอะไร
- เป็นรองเท้าสัญชาติญี่ปุ่นโดยแท้ เกิดขึ้นเมื่อปี 1949 ในประเทศญี่ปุ่นโดยนาย Kihachiro Onitsuka โดยมีความต้องการในการที่ผลิตรองเท้า โอนิซึกะ ไทเกอร์ นั้น เพื่อที่จะทำให้เด็ก เยาวชนและวัยรุ่นหันมาให้ความสนใจกับการเล่นกีฬาให้มากขึ้น ด้วยเทคนิคพิเศษในการผลิตที่มีโดยเฉพาะ
- และในครั้งแรกนั้นทางแบรนด์ได้ผลิต Onitsuka Tiger ออกมาในรูปแบบของรองเท้าบาสเก็ตบอล และใช้สัญลักษณ์ที่เป็นหน้าเสือมาเป็นตราของรองเท้าจนในที่สุดก็กลายเป็นตราประจำรองเท้าแบรนด์นี้ไปแล้ว
- อย่างไรก็ตามในปี 1966 นายคิชาชิโร โอนิซึกะ ก็เปลี่ยนแนวความคิดและแรงจูงใจในการสร้างสรรค์ต่าง ๆ หันมาผลิตและจัดจำหน่ายรองเท้าภายใต้แนวความคิด ASICS Stripe Design โดยแบบนั้นจะเน้นไปทางด้านสุขภาพของเท้า และทำให้การสวมใส่นั้นมีความสุข จนท้ายที่สุดก็นำไปสู่รองเท้าแบรนด์ชื่อดังอย่าง Onitsuka Tiger Mexico 66
- เนื่องจาก Onitsuka Tiger เป็นแบรนด์รองเท้าที่มีมาอย่างยาวนานโดยผลิตที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นอย่างที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น ก่อนที่จะได้รับความนิยมอย่างมาก ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นแบรนด์รองเท้าที่มีทั้ง รองเท้าผ้าใบผู้ชาย รองเท้าผ้าใบผู้หญิง หรือ รองเท้ากีฬา รวมไปจนถึงสไตล์อื่น ๆ อีกมากมาย
- นอกจากนี้ ยังเป็นรองเท้าแฟชั่น ที่มีสไตล์ ที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย ทำให้นอกจากการใส่เล่นกีฬาเหมือนคนธรรมดาทั่ว ๆ ไป ก็อาจจะทำให้สามารถที่จะใส่ลำลองหรือท่องเที่ยวทั่ว ๆ ไปได้อีกด้วย และด้วยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในด้านสีสันและการดีไซน์จึงไม่ใช่เรื่องแปลกกับคำถามว่า “ทำไมต้องเป็นรองเท้า Onitsuka Tiger”
- วันนี้เลยอยากจะแนะนำรองเท้าคู่เด็ดที่น่าจะมีไว้ติดตู้รองเท้าบ้าง เผื่อว่า จะเอาไว้แมตช์กับเสื้อผ้าแนวสปอร์ตกันสักหน่อยนะครับ ถ้าเป็นหนุ่ม ๆ ล่ะก็ ต้องรุ่น Wasen สีดำ แมตช์ง่ายกับทุกชุด ยังคง Signature ของ Onitsuka Tiger ได้เป็นอย่างดี
- ส่วนสาวๆ ก็คงเป็นรุ่น Mexico 66 สีม่วงไลแลคคู่นี้ นอกจากจะทำให้คุณเดินช้อปปิ้งแบบสบาย ๆ ไม่เมื่อยเท้าอย่างรองเท้าส้นสูงแล้ว คุณก็สามารถแต่งตัวแฟชั่นกับสีแสบสดได้อย่างสนุกสนานอีกด้วย ความฮิตของ Onitsuka Tiger มีมาตั้งนานแล้วล่ะ
- ไม่รู้ว่ายังจำภาพยนตร์เรื่อง Kill Bill กันได้รึเปล่า สาว Uma Thurman นางเอกของเราก็ใส่ Onitsuka นะ หรืออย่างเจ้าชายวิลเลี่ยมแห่งราชวงศ์อังกฤษ ก็ยังใส่รุ่น Mexico 66 เลย
Onitsuka Central World ชั้นไหน
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ร้าน Onitsuka Tiger #centralwOrld ชั้น 1 โซน Eden โทร.02-6131584. #centralwOrld #OnitsukaTiger.
Onitsuka Tiger เดอะมอลล์ โคราช อยู่ชั้นไหน
พบกับ #OnitsukaTiger แบรนด์รองเท้าชื่อดัง ได้แล้ววันนี้!! ที่ เดอะมอลล์นครราชสีมา #เดอะมอลล์ โคราชแผนก Sports Mall ชั้น 2 #เอาใจคนรักรองเท้า #สาวกโอนิซึกะไทเกอร์
รองเท้าเอสิค กับ โอนิซึกะ ต่างกันตรงไหน
Onitsuka Tiger เป็นรองเท้าแนวแฟชั่น ส่วน ASICS เป็นรองเท้ากีฬา ถึงแม้ทั้งสองแบรนด์ต่างมีชื่อเรียก และภาพลักษณ์ต่างกัน
Onitsuka Tiger ใช้หนัง อะไร
จุดเด่นที่สุดของ ‘Nippon Made’ คือ วิธีการผลิตในขั้นตอนสุดท้ายและท้ายสุดนั่นก็คือ การฟอก / ย้อม และตากรองเท้าด้วยวิธีการดั้งเดิม และทำด้วยมือทุกคู่ – -Masaru Sagawa กับรองเท้า Onitsuka Tiger Nippon Made ในมือของเขา- ใช่ครับคุณอ่านไม่ผิด รองเท้า Onitsuka Tiger ‘Nippon Made’ นั้นผลิตด้วยมือทุกคู่ กล่าวคือทุกขั้นตอนของการผลิตรองเท้านั้น เลือกใช้คนญี่ปุ่นที่ใส่ใจรายละเอียดแบบสุดๆ ในการผลิตแต่ละชิ้นส่วนให้ออกมาสวยงามอย่างที่พวกเราเห็นกันนั่นเอง ซึ่งขั้นตอนที่เราชาว MDs ยอมรับในความเนี๊ยบมากๆ เลยก็คือ “การทาสีป้าย Logo Onitsuka Tiger ที่ละชิ้น” ที่เรารู้สีกว่าไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นก็ได้
-Nippon Made จากการมัดย้อมในแบบฉบับ Shibori- ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความละเอียดและพิถีพิถันดังกล่าวก็คือ Masaru Sagawa เจ้าของโรงงานเล็กๆ ในจังหวัด Osaka ที่เป็นโรงงานหลักในการย้อมสีหรือทำขั้นตอน Finishing ให้กับรองเท้า Nippon Made Collection เท่านั้น และถือเป็นรองเท้าแบรนด์แรกของโลกที่เลือกผลิตโดยเทคนิก Shibori (มัดย้อมแบบญี่ปุ่น) ในปี 2011 ด้วย เนื่องจากรองเท้า Nippon Made ต้องทำการ Finishing ด้วยมือทั้งหมด ดังนั้นตัวรองเท้าจะถูกผลิตได้เพียงวันละ 100 คู่เท่านั้น ไม่สามารถเพิ่มการผลิตได้มากกว่านี้ และถ้ารองเท้าดังกล่าวต้องผลิตด้วยกรรมวิถีมัดย้อมด้วยแล้ว ยิ่งต้องใช้เวลานานขึ้นเกือบเท่าตัว เพราะการมัดย้อม 1 ครั้ง (ด้วยมือ) สามารถทำได้สูงสุดแค่ 3 คู่เท่านั้น
-Onitsuka Tiger Nippon Made Mexico 66 Deluxe สี Peacoat- สำหรับสี Peacoat ที่อยู่ในมือเราคู่นี้นั้น เลือกใช้หนังแกะเป็นหลักครับ เสริมด้วยหนัง Suede เพื่อความแข็งแรง ซึ่งเราขอบอกเลยครับว่ารองเท้าคู่นี้นิ่มแบบสุดๆ และถือเป็นหัวใจหลักของ Nippon Made Collection เลยก็ว่าได้
“เพราะรองเท้า Onitsuka Tiger ที่วางขายอยู่ในท้องตลาดนั้นไม่นิ่มอย่างที่ควรจะเป็น” Masaru Sagawa กล่าวก่อนเสริมว่า “เราจึงเลือกที่จะผลิตด้วยกรรมวิธีสุดพิเศษที่ช่วยให้รองเท้านั้นนิ่มมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยมือของเราเอง”
จะเรียกว่า Onitsuka Tiger Nippon Made คือไลน์การผลิตที่ Premium ที่สุดของแบรนด์ Asics ก็น่าจะได้นะครับ เพราะไม่ว่าอะไรก็ตามที่ผลิตด้วยมือแบบ Handmade ระดับนี้ “มันคือคุณค่าที่ชาวญี่ปุ่นใส่ใจมากกว่าจะมองเป็นเพียงรองเท้าอย่างเดียวแล้วหล่ะ” ซึ่งถ้าคุณอ่านมาถึงจุดนี้เราเชื่อนิดๆ ครับว่า คุณเองก็สนใจ Nippon Made Collection อยู่เช่นเดียวกัน โดยคุณสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้าน Onitsuka Tiger Stores ทั้ง 13 สาขา ได้เลยครับ
Onitsuka Tiger มาจากประเทศอะไร
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อุตสาหกรรม | Footwear |
---|---|
ก่อตั้ง | 1949 |
ผู้ก่อตั้ง | Kihachiro Onitsuka |
สำนักงานใหญ่ | ประเทศญี่ปุ่น |
บริษัทแม่ | ASICS |
เว็บไซต์ | http://www.onitsukatiger.com/en-us |
โอนิซูกะ ไทเกอร์ คือบริษัทผลิตรองเท้าที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ ญี่ปุ่น ซึ่งมีประวัติที่สามารถย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยเริ่มก่อตั้งบริษัท โอนิซูกะ จำกัด ในปี ค.ศ.1949 โดยนายทหารผ่านศึกอายุเพียง 32 ปี ชื่อคุณ คิฮาชิโร โอนิซูกะ ผู้ก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นพร้อมความหวังที่จะฟื้นฟูความรู้สึกของเหล่าวัยรุ่นในชาติหลังสงครามโลก ผ่านการกีฬา ผลิตภัณฑ์แรกของโอนิซูกะ ไทเกอร์ คือรองเท้ากีฬาบาสเก็ตบอลที่มีรูปแบบคล้ายรองเท้าฟางสานโบราณ ซึ่งรูปแบบดีไซน์นี้ได้ถูกต่อต้านและไม่เป็นที่ยอมรับจากหลายฝ่ายและทำให้คุณโอนิซูกะต้องกลับไปสู่กระบวนการออกแบบอีกครั้งเพื่อให้รูปแบบของรองเท้าของเขาสามารถตอบสนองการใช้งานที่สามารถให้นักกีฬาใช้งานได้อย่างคล่องตัวในการออกตัวและหยุดการเคลื่อนไหวในสนามกีฬาระหว่างการแข่งขัน โดยการเสริมรอยนูนและเพิ่มช่องว่างไว้ใต้พื้นรองเท้าบาสเก็ตบอล จากดีไซน์ที่คุณโอนิซูกะออกแบบใหม่นี้สามารถทำให้รองเท้าของเขามีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นในการใช้งาน และทำให้ในปี ค.ศ.1955 บริษัทผลิตรองเท้าของเขามียอดการค้าที่สูงขึ้นและสามารถขยายสาขาได้สูงถึง 500 สาขาทั่วเกาะญี่ปุ่น โอนิซูกะไทเกอร์ ได้ร่วมทำงานกับนักวิ่งมาราธอนที่ชื่อ โตรู ทีระซอล ในปี ค.ศ.1953 เพื่อที่จะพัฒนารองเท้าที่ใช้ใส่ในการวิ่งระยะไกลซึ่งจะช่วยนักวิ่งลดการเกิดแผลพุพอง นักวิ่งในตำนานของเอธิโอเปียที่ชื่อ อะบีบี้ บีกิล่า เริ่มสวมใส่รองเท้าโอนิซูกะ ไทเกอร์ ในปี ค.ศ.1957 ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติการเป็นนักวิ่งมืออาชีพที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยใส่รองเท้าในการวิ่งมาก่อนเลย โดยได้รับการชักชวนและสร้างความเชื่อมั่นจากนายโอนิซูกะ ว่าจะทำให้การวิ่งของเขามีประสิทธิภาพที่สูงกว่าการวิ่งเท้าเปล่าหลายเท่าตัว ในช่วงปลายปี ค.ศ.1950 ที่มหาวิทยาลัยโอระกอน มีนักวิ่งระยะกลางชื่อนาย ฟิลิป ไนค์ โดยผู้ฝึกสอนที่ชื่อ บิล โบวาแมน ผู้ที่เป็นหนึ่งในผู้ฝึกสอนระดับต้นๆ ของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผู้ฝึกสอนโบวาแมนนี้เป็นผู้ที่เป็นที่รู้จักในเรื่องการทดสอบออกแบบรองเท้าที่ใช้ในการวิ่งรูปแบบต่างๆ ที่จะทำให้รองเท้าที่ใช้ใส่วิ่งนั้นมีน้ำหนักที่เบาและรองรับแรงกระแทกได้มากกว่า หลังจากที่ได้รับการศึกษาที่มหาวิทยาลัยโอรากอน นายไนค์ได้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย สแตนฟอร์ด และได้เขียนบทความในวิยานิพนธ์ระหว่างการศึกษาปริญญาโทสาขา บริหารจัดการธุรกิจ ในหัวข้อเรื่อง การตลาดของธุรกิจรองเท้ากีฬา ซึ่งหลังจากจบการศึกษา ไนค์ได้เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นและได้เข้าติดต่อกับทางบริษัท โอนิซูกะ ไทเกอร์ จำกัด เพื่อชักชวนและแสดงให้เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจของตลาดรองเท้ากีฬาโอนิซูกะในประเทศสหรัฐอเมริกา และในปี ค.ศ.1963 ไนค์ได้รับการส่งสินค้าเที่ยวแรกของรองเท้าโอนิซูกะไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา และต่อมาไนค์และ โบวาแมนได้ร่วมลงทุนเป็นจำนวนเงินคนละ 500 เหรียญสหรัฐในการก่อตั้งร้าน บรูริบบอนสปอร์ตขึ้น ในปี ค.ศ.1964 โอนิซูกะ ได้จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหุ้นของโกเบ และเข้าตลาดหุ้นของโอซาก้าและโตเกียวในลำดับต่อมา ลายเส้นที่เรียกขานกันในชื่อ เอซิคน์ ได้มีการริเริ่มใช้ในการออกแบบครั้งแรกในปี ค.ศ.1966 ระหว่างการแข่งขัน คัดเลือก พรีโอลิมปิก ซึ่งเป็นการแข่งขันเกมกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศ แม็กซิโกในปี ค.ศ.1968 ลิมเบอร์เป็นสินค้ารุ่นแรกที่ได้ใส่รูปแบบการออกแบบโดยใช้ลายเส้น เอซิคน์ บนด้านข้างของรองเท้าในบริเวณช่วงบนของสินค้า เส้นสายเหล่านี้ได้กลายมาเป็นการออกแบบที่ได้รับความนิยมและเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญบนรองของโอนิซูกะไทเกอร์ ที่ใช้ชื่อว่า แม็กซิโก 66 ในเวลาต่อมาจวบจนปัจจุบัน ในปี ค.ศ.1968 บรูริบบอน สปอร์ต ได้เริ่มนำเข้าสินค้าในสายการผลิต ลิมเบอร์ เข้าสู่ตลาดประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ.1970 เป็นต้นมา โอนิซูกะ ไทเกอร์ ได้เริ่มนำเสนอสิ่งที่เรียกว่า ฟาบรี ที่ย่อมาจากคำว่า ฟาสเบรก ซึ่งเป็นท่าเคลื่อนไหวของกีฬาบาสเก็ตบอล ทีมกีฬาของประเมทศญี่ปุ่นได้สวมใส่รองเท้าที่มีดีไซน์ ฟาบรี นี้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ในปี ค.ศ.1972 ที่มูนิค ซึ่งทีมญี่ปุ่นได้อันดับที่ 14 ในการแข่งขันในปีนั้น ผู้ชนะเลิศในการแข่งขันประเภทกรีฑาที่วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่งในรุ่น 5,000 และ 10,000 เมตร ที่ชื่อ แลสซี่ วีเรน โดยได้สวมใส่รองเท้าของโอนิซูกะ ไทเกอร์ ระหว่างการแข่งขันทั้งสองประเภทที่กล่าวมา ในปี ค.ศ.1972 เจเล็งค์ และ โอนิซูกะ ได้รวมพลังของทั้งคู่ในด้านการเงินและตำแหน่งทางการตลาดของธุรกิจผลิตภัณฑ์กีฬาเข้าด้วยกัน และสร้างสำนักงานขายภูมิภาคขึ้นใกล้จังหวัด ฮอกไกโดเพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกภาคฤดูหนาวที่ ซับโปโร ซึ่งต่อมาได้ควบรวม 3 บริษัทเข้าด้วยกันและก่อตั้งเป็นบริษัท เอซิคน์ ในปัจจุบันบริษัทดังกล่าวยังคงใช้ชื่อการค้าเดิมในการจำหน่ายรองเท้าให้กับผู้ค้าต่างๆทั่วทุกภูมิภาคและทั่วโลก ชื่อ เอซิคน์ นี้เป็นคำย่อมาจากคำว่า “เอนิม่า ซาน่า อิน คอลโปเร ซาโน่” ที่แปลว่า “หัวใจและวิญญาณที่แข็งแกร่งในร่างที่แข็งแรง” ซึ่งเป็นการดัดแปลงมาจากคำพังเพยโบราณใน จูวีนาล และที่อื่นๆ Mens sana in corpore sano ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้ให้ความสนใจในการแปลความหมายและชื่อย่อที่ผสมผสานตัวอักษรของชื่อเต็มเหล่านั้น
ช็อป โอ นิ ซึ กะ เซ็นทรัล เว สเกตอยู่ชั้นไหน
Onitsuka Tiger. Nippon made แวะไปดู ที่ช๊อบ เวสเกต ชั้น1 ฝั่งพลาซ่านะคะ
Onitsuka Tiger เมดอินอะไร
- เป็นรองเท้าสัญชาติญี่ปุ่นโดยแท้ เกิดขึ้นเมื่อปี 1949 ในประเทศญี่ปุ่นโดยนาย Kihachiro Onitsuka โดยมีความต้องการในการที่ผลิตรองเท้า โอนิซึกะ ไทเกอร์ นั้น เพื่อที่จะทำให้เด็ก เยาวชนและวัยรุ่นหันมาให้ความสนใจกับการเล่นกีฬาให้มากขึ้น ด้วยเทคนิคพิเศษในการผลิตที่มีโดยเฉพาะ
- และในครั้งแรกนั้นทางแบรนด์ได้ผลิต Onitsuka Tiger ออกมาในรูปแบบของรองเท้าบาสเก็ตบอล และใช้สัญลักษณ์ที่เป็นหน้าเสือมาเป็นตราของรองเท้าจนในที่สุดก็กลายเป็นตราประจำรองเท้าแบรนด์นี้ไปแล้ว
- อย่างไรก็ตามในปี 1966 นายคิชาชิโร โอนิซึกะ ก็เปลี่ยนแนวความคิดและแรงจูงใจในการสร้างสรรค์ต่าง ๆ หันมาผลิตและจัดจำหน่ายรองเท้าภายใต้แนวความคิด ASICS Stripe Design โดยแบบนั้นจะเน้นไปทางด้านสุขภาพของเท้า และทำให้การสวมใส่นั้นมีความสุข จนท้ายที่สุดก็นำไปสู่รองเท้าแบรนด์ชื่อดังอย่าง Onitsuka Tiger Mexico 66
- เนื่องจาก Onitsuka Tiger เป็นแบรนด์รองเท้าที่มีมาอย่างยาวนานโดยผลิตที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นอย่างที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น ก่อนที่จะได้รับความนิยมอย่างมาก ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นแบรนด์รองเท้าที่มีทั้ง รองเท้าผ้าใบผู้ชาย รองเท้าผ้าใบผู้หญิง หรือ รองเท้ากีฬา รวมไปจนถึงสไตล์อื่น ๆ อีกมากมาย
- นอกจากนี้ ยังเป็นรองเท้าแฟชั่น ที่มีสไตล์ ที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย ทำให้นอกจากการใส่เล่นกีฬาเหมือนคนธรรมดาทั่ว ๆ ไป ก็อาจจะทำให้สามารถที่จะใส่ลำลองหรือท่องเที่ยวทั่ว ๆ ไปได้อีกด้วย และด้วยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในด้านสีสันและการดีไซน์จึงไม่ใช่เรื่องแปลกกับคำถามว่า “ทำไมต้องเป็นรองเท้า Onitsuka Tiger”
- วันนี้เลยอยากจะแนะนำรองเท้าคู่เด็ดที่น่าจะมีไว้ติดตู้รองเท้าบ้าง เผื่อว่า จะเอาไว้แมตช์กับเสื้อผ้าแนวสปอร์ตกันสักหน่อยนะครับ ถ้าเป็นหนุ่ม ๆ ล่ะก็ ต้องรุ่น Wasen สีดำ แมตช์ง่ายกับทุกชุด ยังคง Signature ของ Onitsuka Tiger ได้เป็นอย่างดี
- ส่วนสาวๆ ก็คงเป็นรุ่น Mexico 66 สีม่วงไลแลคคู่นี้ นอกจากจะทำให้คุณเดินช้อปปิ้งแบบสบาย ๆ ไม่เมื่อยเท้าอย่างรองเท้าส้นสูงแล้ว คุณก็สามารถแต่งตัวแฟชั่นกับสีแสบสดได้อย่างสนุกสนานอีกด้วย ความฮิตของ Onitsuka Tiger มีมาตั้งนานแล้วล่ะ
- ไม่รู้ว่ายังจำภาพยนตร์เรื่อง Kill Bill กันได้รึเปล่า สาว Uma Thurman นางเอกของเราก็ใส่ Onitsuka นะ หรืออย่างเจ้าชายวิลเลี่ยมแห่งราชวงศ์อังกฤษ ก็ยังใส่รุ่น Mexico 66 เลย
โอนิซึกะ เซ็นทรัลบางนาอยู่ชั้นไหน
Onitsuka Tiger Collection “FABRE BL-S SEASON”
Onitsuka Tiger “FABRE BL-S Season” หรือเรียกสั้นๆว่า FABRE CLASSIC ซึ่งเป็น Model ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1975 และถูกนำกลับมาทำใหม่ พร้อมปรับ รูปแบบ และใส่เทคโนโลยีต่างๆลงไปแบบไม่มีกั๊กโดยรองเท้ารุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรองเท้าบาสเก็ตบอลในปี 1975 สำหรับ Collection ใหม่ นี้ประกอบไปด้วย รองเท้ารุ่น Low Cut และ Mid Cut ให้สาวกได้เลือกใส่กันอย่างจุใจด้วย 2 โทนสีด้วยกัน ในส่วน ของพื้นรองเท้า ยังใช้วัสดุที่ทำจากยาง เพื่อเพิ่มการยึดเกาะให้กับรองเท้าด้วย นอกจาก นั้นในส่วนของ Upper ยังมีการใช้เทคโนโลยี Tyvek (ไทเวค) ที่ผลิต จากเส้นใยพลาสติก ทำให้รองเท้ารุ่นนี้ มีคุณสมบัติกันน้ำได้ดี อีกด้วย #OnitsukaTiger #OnitsukaTigerFABRECLASSIC #FABRECLASSIC FABRE™ CLASSIC LO : 2 Color Way ราคา : 4,500 THB Black/ White ขนาด : 5, 5H, 6, 6H, 7, 8, 8H, 9, 10 White/Blue ขนาด ; 4H, 5, 5H, 6, 6H, 7, 7H, 8, 9, 10, 11, 12 FABRE™ CLASSIC MT : 1 Color Way ราคา : 3,900 THB ขนาด : 5, 5H, 6, 7, 8, 9, 10 สินค้าเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 9 มีนาคม 2563 ที่
Shop Onitsuka Tiger Siam Paragon ชั้น 2 Shop Onitsuka Tiger Icon Siam ชั้น 1 โทร.02-1182573 Shop Onitsuka Tiger Central World ชั้น 1 Zone Eden โทร.02-6131584 Shop Onitsuka Tiger สาขา Terminal 21 อโศก ชั้น M โทร.02-0156177 Shop Onitsuka Tiger สาขา Terminal 21 พัทยา ชั้น G โทร.033-252124 Shop Onitsuka Tiger สาขา Terminal 21 โคราช ชั้น 1 โทร.044-498608 Shop Onitsuka Tiger สาขา Fashion Island ชั้น 1 โทร.02-9476280 Shop Onitsuka Tiger Central Plaza ปิ่นเกล้า ชั้น 1 โทร.02-8847692 Shop Onitsuka Tiger Central Plaza ลาดพร้าว ชั้น 1 โทร.02-9370878 Shop Onitsuka Tiger Central Festival พัทยาบีช ชั้น 2 โทร.038-043130 Shop Onitsuka Tiger Central Grand พระราม 9 ชั้น 1 โทร.02-1083143 Shop Onitsuka Tiger Central Plaza West Gate ชั้น 1 โทร.02-0530939 Shop Onitsuka Tiger Central Festival เชียงใหม่ ชั้น 1 โทร.053-288710 Shop Onitsuka Tiger Central Plaza บางนา ชั้น 1 โทร.02-1028739 Shop Onitsuka Tiger Central Phuket Floresta ชั้น 2 โทร.076-368078 Shop Onitsuka Tiger Zpell by Future Rangsit ชั้น 3 โทร.02-1509152
: Onitsuka Tiger Collection “FABRE BL-S SEASON”