รองเท้า ปั่น จักรยาน เสือ ภูเขา ยี่ห้อ ไหน ดี?

น่าโดนมาก ! 10 รองเท้าเสือภูเขาดีไซน์สวย พร้อมใส่ลุยในทุกสถานการณ์ รวม 10 รองเท้าเสือภูเขาผู้ชาย คัดเน้น ๆ เอาเฉพาะดีไซน์เท่ ๆ คุณภาพดี พร้อมให้นักปั่นทุกคนใช้ใส่ลุยในทุกสถานการณ์ การปั่นจักรยานเสือภูเขา ถือเป็นกีฬาที่ต้องลุยและมีความท้าทายมาก ๆ นอกจากอุปกรณ์เซฟตี้อย่าง แล้ว รองเท้าเสือภูเขา ก็เถือป็นอีกหนึ่งไอเทมที่สำคัญกับนักปั่นจักรยานเสือภูเขาไม่แพ้กัน เพราะการใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสมจะทำให้ตำแหน่งการวางเท้าเคลื่อนไปในจุดที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บได้ แต่ จะทำให้เท้าถูกล็อคอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ช่วยให้ควงขาได้ง่าย ปั่นในที่ขรุขระได้ดีขึ้น แถมยังช่วยทุ่นแรงได้ระดับหนึ่งด้วย เชื่อว่านักปั่นหลายคนคงรู้สึกสนใจรองเท้าเสือภูเขากันบ้าง ใครอยากมีติดตัวไว้สักคู่แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกคู่ไหนดี ก็แวะมาดู 10 รองเท้าเสือภูเขาผู้ชาย ที่กระปุกดอทคอมรวบรวมมาฝากได้เลย จะมีรุ่นไหนเท่ ๆ โดนใจบ้างมาดูกันครับ.1. (ภาพจาก : fizik.com) 2. Mavic MTB Footwear XA Pro Shoe อยากได้รองเท้าเสือภูเขาสไตล์สปอร์ต ๆ แบบดูวัยรุ่นหน่อย ต้องมาทาง Mavic คู่นี้เลย เพราะมีดีไซน์ที่ดูเท่ ทันสมัย แถมจับคู่สีได้อย่างสวยงามอีกด้วย ใครปั่นข้าง ๆ เป็นอันต้องหันมองแน่นอน โดยราคาขายของคู่นี้อยู่ที่ประมาณ 7,000 บาท (ภาพจาก : mavic.com) 3. Giro Empire VR90 ดีไซน์เรียบง่าย แต่ดูเท่สุด ๆ สำหรับรองเท้าเสือภูเขาจาก Giro มาพร้อมกับหนังสังเคราะห์สีสันฉูดฉาดบาดตาบาดใจ เรียกว่าปั่นยังไง สาว ๆ ก็มอง รองเท้าคู่นี้สนนราคาขายอยู่ที่ 6,600 บาท (ภาพจาก : giro.com) 4. Scott MTB Shr-Alp RS Shoe แฟชั่นลายพราง CAMO กำลังฮิตเลย พอมามิกซ์อยู่ในรองเท้าเสือภูเขาดีไซน์สุดเฟี้ยวของ Scott แล้ว ยิ่งดูเท่ยกกำลังสองเลย เหมาะสำหรับคนที่ชอบลุยหรือชอบผจญภัยสุด ๆ โดยคู่นี้มีราคาขายอยู่ที่ประมาณ 5,900 บาท (ภาพจาก : scott-sports.com) 5. Specialized 2 FO Cliplite Mountain Bike Shoes เป็นรองเท้าเสือภูเขาที่มีออกแบบมาได้เหมือนรองเท้าผ้าใบมาก ๆ รูปทรงดี ดีไซน์สวย แถมยังทะมัดทะแมงอีกด้วย ใครชอบสไตล์นี้บอกเลยไม่ผิดหวัง โดยราคาขายของรองเท้าคู่นี้อยู่ที่ประมาณ 5,500 บาท (ภาพจาก : specializedconceptstore.co.uk) 6. Bontrager Evoke Mountain Shoe ดีไซน์ได้โฉบเฉี่ยวและดูเฟี้ยวมาก ๆ สำหรับ Bontrager คู่นี้ ถ้าใส่กับคนลุย ๆ คงดูเท่ไม่เบาเลย ใครสไตล์นี้อยู่แล้วบอกเลยว่าต้องโดน ราคาไม่ไกลเกินเอื้อมขายอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาท (ภาพจาก : trekbikes.com) 7. Shimano Moutain Touring SH-MT5 รองเท้าเสื้อภูเขาของ Shimano คุ่นี้ก็ถูกออกแบบมาคล้ายรองเท้าผ้าใบเหมือนกัน แถมสีสันก็ยังโดดเด่นโดนใจอีกด้วย เรื่องดีไซน์ไม่ต้องพูดถึง ง่าย ๆ แต่พอดี แบบนี้แหละวัยรุ่นชอบ โดยคู่ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาท (ภาพจาก : shimano-lifestylegear.com) 8. Exustar E-SM306 ถือเป็นตัวยอดฮิตเลยก็ว่าได้สำหรับรองเท้าเสือภูเขาจาก Exusta คู่นี้ ด้วยดีไซน์ที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป บวกกับการออกแบบที่ดูแข็งแรงคงทน พร้อมใส่ลุยทุกสถานการณ์ ทำให้คู่นี้เป็นรองเท้าคุ่ใจของใครหลาย ๆ คน ราคาขายน่าคบหาอยู่ที่ประมาณ 2,500 บาท (ภาพจาก : exustar.com) 9. Spiuk Rocca MTB Shoes 2017 สีสันจี๊ดจ๊าดไม่เบาเลย สำหรับรองเท้าเสือภูเขาจาก Spiuk ดีไซน์ออกมาได้ดูดีน่าใส่ แต่เรื่องความแข็งแรงไม่ต้องพูดถึง สมบุกสมบันใส่ลุยไปได้ทุกที่แน่นอน สนนราคาขายเบา ๆ อยู่ที่ประมาณ 2,500 บาท (ภาพจาก : spiuk.com) 10. BTWin 100 Mountain Bike Shoes Black งบไม่เยอะเท่าไหร่ก็ต้องทางนี้เลย ดีไซน์เรียบง่าย ใส่ได้อย่างมั่นใจ แถมใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่าไม่ต่างกัน ปั่นไปไหนไปด้วยเป็นรองเท้าเสือภูเขาคู่ใจได้เลย ราคาขายไม่แพงมากอยู่ที่ประมานคู่ละ 1,300 บาท (ภาพจาก : btwin.com) เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับนักปั่นเสือภูเขา น่าโดนทุกคู่เลยใช่ไหมครับ ใครที่กำลังมองหารองเท้าเสือภูเขาดีไซน์สวย ๆ สักคู่ ก็ลองพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้มาประกอบการเลือกซื้อได้เลยครับ : น่าโดนมาก ! 10 รองเท้าเสือภูเขาดีไซน์สวย พร้อมใส่ลุยในทุกสถานการณ์

ปั่นจักรยานควรใส่รองเท้าแบบไหน

เมื่อการปั่นจักรยานมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งปั่นเพื่อการออกกำลังกาย เพื่อการแข่งขัน หรือปั่นเป็นงานอดิเรก ไม่แปลกรองเท้าปั่นจักรยานจะมีความแตกต่างกัน อย่างการปั่นระยะไกลซึ่งมีระยะทางประมาณ 180 กม. ควรเลือกรองเท้าที่มีแผ่นคลีทล็อกกับบันไดแน่นหนาและมีดอกยาง เพื่อให้สามารถเดินได้ง่ายขึ้น เป็นต้น

รองเท้าจักรยาน Bont ดีไหม

หลังปั่น: มันสติฟมาก – Bont Riot ใส่ได้ค่อนข้างสบาย แต่จะขาดฟีลนุ่มแบบ luxury ในรองเท้าไฮเอนด์​ ถ้าคุณไม่เคยใส่ Bont คุณอาจจะปละหลาดใจในความ “แข็ง” ของมัน นอกจากพื้นจะแข็งมากๆ แล้ว (เป็นเรื่องดีสำหรับรองเท้าจักรยานครับ) ส่วนบนก็แข็งมากเช่นกัน ฟองน้ำที่บุให้ความสบายนั้นให้ตัวได้ไม่มาก ถ้าไม่ชินกับรองเท้าแข็งอาจจะรู้สึกว่าใส่ไม่สบายในช่วงแรก ตัว Rachet ที่ใช้รัดนั้นดูทนทานดี สายรัดก็ถือว่าโอเค แข็งแรง และเป็นรองเท้าที่ใส่ง่ายเพราะมีตัวรัดแค่สองจุดในแต่ละข้างเท่านั้น รองเท้าปั่นที่ดีต้องสติฟ นั่นคือพื้นรองเท้าไม่ควรจะ “ให้ตัว” ได้มาก เพราะจะทำให้เราศูนย์เสียแรงกดลูกบันได เหมือนกับเฟรมจักรยานนั่นหละครับ ถ้าเฟรม “ย้วย” ไม่สติฟ ก็เหมือนเราเสียแรงปั่นไปเปล่าๆ ถึง Riot จะเป็นรุ่นเริ่มต้น แต่บอกได้เลยว่านี่คือรองเท้าที่สติฟที่สุดที่ผมเคยลองมา สติฟยิ่งกว่า Rapha Climber Shoes ที่ใช้พื้น Easton SLXII พื้นตัวท๊อปของ Giro เสียอีก นี่ขนาดไม่ใช่พื้นฟูลคาร์บอน! เรื่องประสิทธิภาพการปั่นหายห่วงครับ กดเท่าไรมาเท่านั้น ไม่มีการสูญเสียแรงแน่นอน ความสติฟนี่เห็นชัดมากเวลาออกสปรินต์หรือกดลูกบันไดขึ้นเขา กับตอนที่ใส่บันได ปกติผมใช้บันได Speedplay เวลาจะล็อกรองเท้าเข้ากับบันได คุณต้องกดรองเท้าลงไปตรงๆ รองเท้า Bont ยัดคลีทให้ติดกับบันไดได้ง่ายมาก เทียบกับพื้น Giro ของ Rapha ซึ่งสะท้อนว่าพื้น Bont นั้นแข็งไม่ให้ตัวครับ รองเท้า Bont มีพื้นรองเท้าแบบ anatomical คือออกแบบให้เข้ากับสรีระเท้าของคนส่วนใหญ่ทำให้เวลาที่เราออกแรงเรารู้สึกว่าเท้าเรากำลังส่งแรงแบบเต็มทั้งเท้า ไม่ใช่แค่ส่วนใดส่วนหนึ่ง เมื่อรวมกับรูปทรงที่เข้ากับเท้าเราจากการอบ ทำให้ผู้ใส่ออกแรงได้เต็มเท้า (หรือเต็มตีน ขอโทษถ้าไม่สุภาพ แต่สื่อความหมายชัดเจนกว่านะ!) รองเท้าระบายความร้อนได้ดี ใส่แล้วไม่รู้สึกว่ามันอบอ้าวหรือกักอากาศครับ น้ำหนักโอเค แน่นอนว่าไม่เบาหวิวเหมือนรุ่นท๊อปแต่ก็ไม่หนักจนรู้สึกเป็นภาระ

ใส่คลีท คืออะไร

Q : คลีทคืออะไร? A : แผ่นที่ใช้ติดใต้รองเท้าเพื่อล็อคเท้าของเรากับบันไดจักรยาน ต้องใช้คู่กับบันไดที่มีตัวล็อคคลีท หรือที่เรียกว่าบันไดคลิปเลส(Clipless)

จำเป็นต้องใส่คลีทไหม

ทำไมนักปั่นจำเป็นต้องใช้รองเท้าคลีท นักปั่นที่เข้าวงการคงจะได้รับคำแนะนำว่าให้ใช้รองเท้าคลีท เพราะรองเท้าคลีทจะทำให้ปั่นดีขึ้นเป็นอุปกรณ์ที่ลงทุนแล้วคุมกว่าอุปกรณ์ชิ้นอื่น สำหรับคนที่สงสัยว่าดีจริงไหม แล้วทำไมนักปั่นจำเป็นต้องใช้รองเท้าคลีท? มาหาคำตอบเลย ทำไมรองเท้าคลีทถึงไม่เหมือนรองเท้าประเภทอื่น หากให้รองเท้าประเภทอื่นอย่างรองเท้าผ้าใบปั่นจักรยานแล้วเปลี่ยนมาใช้รองเท้าคลีท จะรู้สึกถึงความแตกต่างอย่างมากมายเพราะรองเท้าคลีทนั้นพื้นจะแข็งนั่นจึงทำให้การส่งกำลังจากขาไปที่บันไดมีประสิทธิภาพสูง และการใช้รองเท้าคลีทนั้นยังทำให้เท้าเราไม่หลุดจากบันไดในขณะที่ปั่นเพราะมีตัวล็อกติดกันไว้ อะไรคือ คลีท แล้วรองเท้าคลีท แล้วมันทำให้การปั่นดีขึ้นยังไง คลีทคือวัสดุที่ติดอยู่ใต้รองเท้าเพื่อล็อกกับบันไดคลิปเลส (Clipless)ไม่ให้หลุด และสามารถควงขาได้เต็มรอบ เมื่อขาข้างหนึ่งกดบันไดขาข้างหนึ่งก็จะช่วยดึงบันไดขึ้น ซึ่งโดยปกติหากเราไม่ใช้รองเท้าคลีท เราจะต้องออกแรงกดบันไดอย่างเดียวโดยที่ข้าอีกข้างไม่สามารถดึงช่วยได้ การใช้รองเท้าคลีทนั้นจะช่วยให้เราใช้กล้ามเนือขาแทบจะทุกส่วน แตกต่างจากการใช้รองเท้าประเภทอื่นที่จะทำให้ใช้กล้ามเนื้อขาเพียงอย่างเดียว นั่นจึงทำให้ใช้รองเท้าชนิดนี้ช่วยเซฟแรงได้มาก การใช้ยังช่วยให้เราวางเท้าบนบันไดได้เหมาะสมส่งส่งผลเกี่ยวเนื่องไปยังการส่งแรงปั่น แถมยังช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุ เพราะการที่เท้าเรายึดติดกับบันได จะทำให้เราไม่ปั่นวืด แล้วโดนบันไดฟาดหน้าแข้ง หรือหากกำลังปั่นอยู่ยังทำให้ขาไม่หลุดออกจากบันได และยังช่วยป้องกันไม่ให้รองเท้าไปโดนขาจานจนเกิดรอยอีกด้วย วิธีเลือกรองเท้าคลีท อย่าแรกเลยให้ดูค่า Stiffness ยิ่งมีค่าสูง ๆ พื้นรองเท้ายิ่งแข็ง ยิ่งเพิ่มการส่งแรงปั่นได้ดี และควรลองใส่ด้วยตัวเองก่อนเลือกซื้อ เลือกให้ตรงกับการใช้งานให้มากที่สุด เพราะรองเท้าคลีทมีหลายประเภทตามแต่ลักษณะของจักรยาน ควรสวมใส่สบาย แล้วรองเท้าคลีทมีประเภทไหนบ้าง เสือหมอบกับไตรกีฬา – พื้นรองเท้าแบบเสือหมอบกับไตรกีฬามีแผ่นคลีทที่ใหญ่ เหมาะสำหรับนักปั่นที่เน้นทำความเร็ว นี้จะพื้นจะแข็งมากกว่าประเภทอื่น มีแรงส่งในการปั่นที่ดีเยี่ยม แต่เสียตรงที่ใส่แล้วเดินลำบากแค่นั้นเอง คลีทเสือภูเขา ของเสือภูเขานั้นจะถอด และใส่กับบันไดได้ง่ายกว่าของเสือหมอบ เดินได้ง่ายกว่า คล่องตัวกว่า แต่พื้นก็อ่อนกว่าเช่นกัน และมีแผ่นคลีทที่เล็กกว่า

บันไดคลีทดียังไง

ความสำคัญของ คลีท คือการช่วยให้เราสามารถออกแรงดึง บันได จักรยานได้ครบรอบในการหมุน และ ยัง ช่วยล็อคเท้าของนักปั่นกับ บันได จักรยาน ยัง ช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากอาการขาวื ด หรือเท้าหลุดจาก บันได เวลาปั่นจักรยานอีกด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตำแหน่งของ คลีท จักรยาน เพราะมันจะส่งผลต่อร่างกายทั้งบริเวณเท้า ข้อเท้า หัวเข่า ไปจนถึงเอว

ถุงเท้าปั่นจักรยาน ยี่ห้อไหนดี

10 อันดับ ถุงเท้าปั่นจักรยาน ยี่ห้อไหนดี ระบายอากาศ สวมใส่กระชับ

แว่น 100 speedcraft ดีไหม

สำหรับจุดเด่นของแว่นตา 100 % Speedcraft คือเลนส์ชิลด์ทรงกระบอกขนาดใหญ่ทำให้การมองเห็นชัดเจนทั้ง 360 องศา ด้วยเลนส์ขนาดใหญ่ทำให้ Speedcraft เพิ่มช่องระบายอากาศ หรือช่องให้อากาศไหลผ่านบริเวณด้านล่างของ แว่น และยังช่วยลดการเกิดฝ้าขึ้นบนเลนส์ เวลาปั่นอีกด้วย

รองเท้าครีท คืออะไร

คลีท อาจจะเรียกได้ว่าเป็นส่วนเสริมของรองเท้าจักรยาน แต่ก็เป็นส่วนสำคัญที่สุด เพราะคลีท กลายเป็นคำเรียกรองเท้าจักรยานว่า ‘รองเท้าคลีท’ ซึ่ง คลีทคือ อุปเสริมที่เป็นลักษณะแผ่นติดใต้รองเท้า เพื่อล็อครองเท้าของเราให้อยู่กับบันไดจักรยาน เอาไว้ใช้คู่กับบันไดแบบคลิปเลส (Clipless) โดยเฉพาะ

รองเท้าจักรยานช่วยอะไร

อย่างที่นักปั่นจักรยานทั้งหลายทราบกันถึงความพิเศษของรองเท้าปั่นจักรยานว่าบริเวณพื้นของรองเท้าจะมีความแข็งมากกว่ารองเท้าปกติ หรือรองเท้าออกกำลังกายอื่นๆ เพราะ พื้นรองเท้าที่แข็งจะทำให้แรงที่เราส่งไปยังบันไดจักรยานได้ดีขึ้น หรือพูดง่ายๆ ก็คือยิ่งพื้นรองเท้าแข็งเท่าไหร่ แรงที่เราออกแรงจากเท้าก็ส่งไปยังบันไดจักรยานได้เกือบ

จักรยานประเภทใดเหมาะสำหรับปั่นบนเขา

วิธีเลือก จักรยาน คู่ใจ ปั่นแบบไหนเหมาะกับคุณที่สุด

จังหวะนี้เชื่อว่าคงมีหลายคนอยากสัมผัสสายลมแสงแดด ด้วยการหาจักรยานเท่ๆ สักคัน ปั่นไปเที่ยวให้สมใจอยาก นอกจากนั้นแล้วยังได้ออกกำลังกาย และช่วยลดโลกร้อนไปในคราวเดียวกัน แต่ก่อนจะเลือกจักรยานสักคันไว้เป็นพาหนะคู่ใจ ก็ต้องมาลองทำความรู้จักกันซะก่อน ว่าแบบไหนถึงจะใช่กับสไตล์คุณ ไหนๆ จะเสียเงินแล้วก็ต้องให้คุ้มค่าล่ะ ก่อนอื่นเราก็ต้องรู้ก่อนว่า จักรยานนั้นมีกี่ประเภท แล้วค่อยเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน หลักๆ แล้วก็จะมีดังนี้ 1. จักรยานทั่วไป ว่ากันง่ายๆ มันคือจักรยานจ่ายตลาด ส่วนมากมักไม่มีเกียร์ (ก็ปั่นไปแค่ปากซอยนี่เอง) หรือถ้าซื้อดีๆ หน่อยเดี๋ยวนี้ก็มักจะมีติดมาให้อยู่แล้ว ทั้ง 3 เกียร์, 6 เกียร์ แต่สิ่งที่ยังไงก็ขาดไม่ได้ก็คือ ‘ตะแกรงหน้า’ ไว้ใส่กับข้าวนั่นแหละ จักรยานแบบนี้มักมีน้ำหนักมาก แต่ราคาก็ถูกมากเช่นกัน รุ่นแพงหน่อยก็จะมีอุปกรณ์ประกอบมาให้แบบครบครัน เช่น ไฟหน้า บังโคลน บังโซ่ อานซ้อนท้าย ฯลฯ 2. จักรยานพับ (Folding Bike) จักรยานที่เหมาะกับวิถีคนเมืองสุดๆ เน้นพกพาไปใช้งานตามที่ต่างๆ พาขึ้นรถโดยสารได้สะดวก ใส่ไว้ท้ายรถก็ได้ มักใช้ปั่นในระยะทางใกล้ๆ แต่ด้วยโครงสร้างที่ต้องพับเก็บได้จึงทำให้ความแข็งแรงทนทานลดลงไป รวมถึงราคาที่แพงลิบลิ่ว (สำหรับของมือหนึ่ง) 3. จักรยานฟิกซ์เกียร์ (Fixed Gear) สุดยอดความเท่ของวัยรุ่นยุคนี้ เริ่มฮิตกันมากขึ้นในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เพราะดูแลรักษาง่าย สีสันโดนใจ โครงทำจากวัสดุอย่างดี มีตั้งแต่เหล็กไฮเทนเกรดดี ไปจนถึงคาร์บอนไฟเบอร์ และโครงสร้างที่ไม่ซับซ้อน แต่จุดเด่นจริงๆ นั้นอยู่ที่เฟืองหลังซึ่งเป็นแบบตาย (Fixed) ติดกับล้อหลัง ไม่สามารถหมุนฟรีได้เหมือนจักรยานแบบอื่น การขี่จึงต้องหมุนขาอยู่ตลอดเวลา หยุดคือหยุด การเบรคต้องใช้เท้าฝืนหรือการรั้งล้อหลังเท่านั้นรถจึงจะหยุด ฉะนั้นคนที่ขี่จักรยานชนิดนี้ต้องมีการฝึกฝน และใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ 4. จักรยานเสือภูเขา (Mountain Bike) สมบุกสมบันต้องคันนี้ ออกแบบมาเพื่อการขี่ขึ้นเขาลงห้วยโดยเฉพาะ มีระบบกันสะเทือนหรือ ‘โช้คอัพ’ โครงสร้างแข็งแรง ยางล้อใหญ่ และหนา มีระบบเกียร์ให้เลือกตั้งแต่ 10-27 สปีด นอกจากจะใช้งานสมบุกสมบันแล้วยังใช้เป็นจักรยานท่องเที่ยวได้ด้วย ด้วยความอเนกประสงค์ของมัน จึงมีจักรยานลูกผสมอีกแบบออกมา ชื่อว่า ‘ซิตี้ไบค์'(City Bike) สำหรับขี่ในเมืองโดยเฉพาะ ลักษณะคล้ายเสือภูเขา แต่ยางล้อจะเล็กกว่า ดอกยางไม่ลึก เปลืองแรงน้อยกว่า 5. จักรยานเสือหมอบ (Road Bike) ออกแบบมาเพื่อการขับขี่ทางเรียบโดยเฉพาะ แข็งแรง น้ำหนักเบา หน้าตาคล้ายจักรยานแข่งขัน จุดเด่นอยู่ที่การแทรกตัวผ่านอากาศด้วยท่าทางการขี่ ที่ต้องก้มตัวต่ำเพื่อเพิ่มความเร็ว แบบที่เราเห็นในการแข่งขันรายการระดับโลกอย่างตูร์ เดอ ฟรองซ์ (Tour De France) ใช้เป็นจักรยานออกกำลังหรือขี่ท่องเที่ยวก็ได้ แต่เหมาะกับทางเรียบเท่านั้น 6. จักรยานไฮบริด (Hybrid Bike) ดึงเอาจุดเด่นของจักรยานเสือภูเขา และจักรยานเสือหมอบเข้าด้วยกัน โดยใช้ท่านั่งที่สบายแบบเสือภูเขา ใช้ล้อขนาดเดียวกับเสือหมอบ มีความคล่องตัวสูง แข็งแรงทนทาน สามารถนำชุดเกียร์ของเสือหมอบ และเสือภูเขามาใส่ด้วยกันได้ แล้วแต่ลักษณะการใช้งาน หลังจากรู้จักกับจักรยานแต่ละประเภทกันไปแล้ว ต่อไปนี้คืออุปกรณ์สำคัญสำหรับสิงห์นักปั่นทั้งหลาย ทั้งมือใหม่หรือมือโปร เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยทุกเส้นทาง – ไฟส่องสว่าง หรือแผ่นสะท้อนแสง ในเวลาออกเดินทางบางครั้งการกินเวลาจนถึงมืดค่ำ ลำพังเพียงแสงบนท้องถนนอาจไม่เพียงพอ ไฟส่องสว่าง หรือแผ่นสะท้อนแสงจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เพื่อบอกให้ผู้ใช้รถใช้ถนนรู้ว่ามีจักรยานปั่นอยู่ – แว่นตา เศษหิน ดิน ทราย ตามท้องถนนนั้นอันตรายกว่าที่เราคิดมาก หากปลิวเข้าตาอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ การใส่แว่นจึงช่วยเพิ่มความปลอดภัย ให้เลือกซื้อแว่นตาขี่จักรยานโดยเฉพาะ เพราะมีการออกแบบให้มีความทนทาน เลนส์ทำจากพลาสติกเหนียว ป้องกันรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต ลดอาการล้าทางสายตาเมื่อต้องปั่นกลางแจ้งเป็นเวลานาน – หมวกกันน็อค มีความสำคัญมากที่สุด ช่วยลดแรงกระแทกบริเวณกระโหลกให้น้อยที่สุด โดยมีให้เลือกหลายชนิดตามการใช้งาน เช่น หากเราขี่จักรยานที่ไม่ต้องสมบุกสมบันนักก็ควรใช้หมวกนิรภัยแบบ sport หรือหากเราขี่เสือหมอบ ก็ต้องใช้แบบ Road Bike ที่มีน้ำหนักเบา รูปทรงเพรียวลม ส่วนใครที่ชอบขับแบบลุยป่าก็ต้องเป็นแบบ Mountain Bike เพราะสามารถป้องกันได้ทุกสัดส่วน การเลือกหมวกกันน็อคจะต้องเลือกที่พอดีหัว ไม่คับ ไม่กดหัว และไม่หลวมจนคลอนไปมา *ข้อกฏหมายควรรู้สำหรับผู้ขี่จักรยาน* มาตรา 83 ในทางเดินรถ ไหล่ทาง หรือทางที่จัดทำไว้สำหรับรถจักรยาน ห้าม มิให้ ผู้ขับขี่จักรยาน 1. ขับโดยประมาท น่าหวาดเสียว อันอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน 2. ขับโดยไม่จับคันบังคับรถ 3. ขับขนานกันเกินสองคัน เว้นแต่ขับในทางที่จัดไว้สำหรับรถจักรยาน 4. ขับโดยนั่งบนที่อื่นอันมิใช่อานที่จัดไว้เป็นที่นั่งตามปกติ 5. ขับโดยบรรทุกบุคคลอื่น เว้นแต่รถจักรยานสามล้อสำหรับบรรทุกคน 6. บรรทุกหรือถือสิ่งของ หีบห่อ หรือของใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจับคันบังคับรถหรืออันอาจจะเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน 7. เกาะหรือพ่วงรถอื่นที่กำลังแล่นอยู่ ภาพ: ลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก Shutterstock ลิขสิทธิ์ภาพขอสงวนเฉพาะสำหรับงานบทความใน “ทรูไลฟ์” และ “H Travel” เท่านั้น ห้ามไม่ให้นำภาพไปเผยแพร่ผ่านช่องทางอื่นโดยเด็ดขาด

ติดตาม travel.truelife.com ได้อีกช่องทางที่ ทุกเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว อาหาร และที่พัก คลิกที่ : วิธีเลือก จักรยาน คู่ใจ ปั่นแบบไหนเหมาะกับคุณที่สุด

ถุงเท้าปั่นจักรยาน ยี่ห้อไหนดี

10 อันดับ ถุงเท้าปั่นจักรยาน ยี่ห้อไหนดี ระบายอากาศ สวมใส่กระชับ

Neeramphorn Khadpo